กสอ.โชว์ผลงานดึง SME ทำบัญชีเดียวกว่า 3,500 ราย
กสอ.โชว์ผลงานโครงการ “เสริมแกร่งเอสเอ็มอี รอบรู้ด้านการเงิน” ให้ความรู้ผู้ประกอบการกว่า 3,500 ราย ดึงเอสเอ็มอีเข้าสู่ระบบการจัดทำบัญชีเดียวได้มากกว่า 700 กิจการ นำภาษีเข้าระบบได้กว่า 600 ล้านบาท
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การบริหารจัดการด้านบัญชีและการเงินของผู้ประกอบการ SMEs เป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งต่อการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันในยุคปัจจุบัน โดยจากรายงานพบว่าปี 2560 มีจำนวนผู้ประกอบการ SMEs ไทยทั่วประเทศกว่า 3 ล้านราย หรือ คิดเป็นร้อยละ 99.78 ของจำนวนวิสาหกิจทั้งประเทศ
ทั้งนี้มีการจัดตั้งธุรกิจในรูปแบบของการจดทะเบียนนิติบุคคลจำนวนกว่า 6 แสนราย (ข้อมูลจาก : สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว.) โดยมีการบริหารจัดการด้านการเงินอย่างเป็นระบบหรือการจดแจ้งการทำระบบบัญชีเดียวประมาณ 4.5 แสนราย คงเหลืออีกประมาณ 1.5 แสนราย อยู่ที่ระหว่างรอดำเนินการจดแจ้งเข้าระบบบัญชีเดียว ซึ่งผู้ประกอบการ SMEs ที่ยังไม่ได้เข้าสู่ระบบบัญชีเดียว อาจมีสาเหตุมาจากการขาดความรู้ความเข้าใจในด้านดังกล่าว จึงเป็นที่มาของมาตรการในการส่งเสริมผลักดันให้ผู้ประกอบการ SMEs จัดทำระบบบัญชีเดียว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ สร้างความน่าเชื่อถือทางธุรกิจและเล็งเห็นถึงประโยชน์ของการจัดทำระบบบัญชีเดียว
ปัจจุบัน กสอ. ได้เร่งผลักดันสร้างองค์ความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs เพื่อให้เข้าใจถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการจัดทำระบบบัญชีเดียว อาทิ สามารถวิเคราะห์ภาพรวมของธุรกิจและการเคลื่อนไหวของธุรกิจได้อย่างเหมาะสม การมีข้อเท็จจริงของธุรกิจอันจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในการทำธุรกรรม รวมทั้งเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนหรือการขอสินเชื่อจากสถาบันทางการเงินเนื่องจากปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีนโยบายให้สถาบันการเงินใช้งบการเงินบัญชีชุดเดียว เพื่อประกอบการพิจารณาสนับสนุนทางการเงิน ซึ่งการมีมีระบบบัญชีเดียวส่งผลให้สถาบันการเงินสามารถวิเคราะห์ในการอนุมัติสินเชื่อได้โดยง่ายและเร็วยิ่งขึ้น เป็นต้น
และในปี 2561 กสอ. ได้ดำเนินโครงการเสริมแกร่งให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ให้รอบรู้ด้านการเงินมาแล้วกว่า 15 ครั้ง ทั้งในพื้นที่ส่วนกลางและกระจายไปยังต่างจังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ นครราชสีมา ขอนแก่น พระนครศรีอยุธยา สระบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี ชลบุรี ระยอง สมุทรสาคร สงขลา ภูเก็ต และกระบี่ ซึ่งก่อให้เกิดการรับรู้และตระหนักถึงความสำคัญในการเปลี่ยนมาใช้ระบบบัญชีชุดเดียวของผู้ประกอบการ SMEs มากกว่า 3,500 ราย พร้อมทั้งมีผู้ประกอบการนำองค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดทำบัญชีไปปรับใช้ในการเข้าสู่ระบบบัญชีเดียวมากกว่า 700 กิจการ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ 300 กิจการ และคาดว่าจะมีรายได้เข้าสู่ระบบประมาณ 600 ล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นเพื่อพัฒนาประเทศต่อไป