สรุปข่าวประจำวันที่ 7 มกราคม 2565
หุ้น ตปท.-ไทย : ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาด (6 ม.ค.) ลดลง 170.64 จุด(0.47%)ปิดที่ 36,236.47 จุด แนสแดค ลดลง 19.3 จุด (0.13%)ปิดที่ 15,080.9 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 4.53 จุด (0.10%)ปิดที่ 4,696.05 จุด ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาด(6 ม.ค.) ที่ระดับ 1,653.03 จุด ลดลง 23.76 จุด (1.42 %) มูลค่าการซื้อขาย 106,477.92 ล้านบาท
น้ำมันโลก : สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ พุ่งขึ้น 1.61 ดอลลาร์ หรือ 2.07% ปิดที่ราคา 79.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 1.19 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ราคา 81.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทองคำลง 50 บาท : ราคาทองคำเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 28,450.00 ขายออกบาทละ 28,550.00 ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 27,939.88 ขายออกบาทละ 29,050.00 บาท ราคาทองลง 50 บาท เมื่อเทียบกับวันที่ 5 ม.ค.
เงินบาทอ่อนค่าลง : สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ (6 ม.ค.) อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับวันที่ 5 ม.ค.โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 33.372 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แบงก์พาณิชย์ กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยที่ใช้ซื้อขายกับลูกค้า โดยกำหนดค่าเงินบาทไว้ที่ 33. 5319 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ, 45. 5909 บาทต่อ 1 ปอนด์, 37. 0917 บาทต่อ 1 ยูโร, 28. 1576 บาท ต่อ 100 เยน, 4. 3130 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาทที่ 24.8442 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 8.0496 ต่อ 1 ริงกิตมาเลเซีย
ลต.หลักสี่ :
จับฉลากการเลือกตั้งซ่อม กทม.เขต 9 (หลักสี่-จตุจักร บางส่วน) เบอร์ 1 นายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ พรรคไทยภักดี เบอร์ 2 นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี พรรคกล้า เบอร์ 3 นายสุรชาติ เทียนทอง พรรคเพื่อไทย เบอร์ 4 น.ส.กุลรัตน์ กลิ่นดี พรรคยุทธศาสตร์ชาติ เบอร์ 5 นายรุ่งโรจน์ อิบรอฮีม พรรคไทยศรีวิไลย์ เบอร์ 6 นายกรุณพล เทียนสุวรรณ พรรคก้าวไกล เบอร์ 7 นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ พรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 8 นายเจริญ ชัยสิทธิ์ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน
จับตา 8 หมื่นโครงการ :
นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT เปิดเผยว่า ต้องจับตา อย่าให้ใครโกง ข้อมูลจาก ACT Ai เผยให้เห็นความผิดปรกติในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐกว่า 8 หมื่นโครงการที่ซุกซ่อนอยู่ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา ทั้งหมดนี้เป็นปัญหาระดับชาติที่ทุกฝ่ายรู้แต่ (ดูเหมือนจะ) ทำอะไรไม่ได้ เปิดเผย 10 หน่วยงานที่มีการจัดซื้อฯ แล้วมีความผิดปรกติที่ส่อถึงความเสี่ยงที่จะเกิดคอร์รัปชัน มากที่สุด
ทร.ถอยเรือดำน้ำ :
มีรายงานข่าวจากกองทัพเรือ ว่า ในการพิจารณาจัดทำงบประมาณปี 2566 ของกองทัพเรือ จะไม่เสนอของบจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีนลำที่ 2 และ 3 ในกรอบวงเงิน 22,500 ล้านบาท (เป็นงบผูกพันจากเป็นงวดๆ) เนื่องจากพิจารณาแล้วว่างบก้อนนี้สูง หากเสนอขอจัดซื้อเรือดำน้ำอีก จะทำให้กระทบต่อการดูแลและซ่อมบำรุงในส่วนอื่น เพราะสถานการณ์โควิด-19 ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ หากกองทัพเรือของบประมาณจัดซื้อไปตอนนี้ ก็อาจถูกวิพากษ์วิจารณ์อีก
ยกระดับเตือนภัยขั้น 4 :
กระทรวงสาธารณสุข ยกระดับแจ้งเตือนภัยจากโรคโควิด-19 จากระดับ 3 เป็นระดับ 4 โดยขอความร่วมมือประชาชน งดไปรับทานอาหารร่วม – ดื่มสุราในร้านอาหาร งดเข้าสถานที่เสี่ยงทุกประเภท เลี่ยงใกล้ชิดผู้อื่นนอกบ้าน งดกิจกรรมรวมกลุ่ม งดโดยสารขนส่งสาธารณสุขทุกประเภทโดยไม่จำเป็น งดไปต่างประเทศ เข้าประเทศ ต้องกักตัว
ใช้เงิน Take or Pay ช่วยค่าไฟ :
คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติเห็นชอบการจัดสรรผลประโยชน์บัญชี Take or Pay แหล่งก๊าซธรรมชาติเมียนมา โดยให้นําเงินผลประโยชน์ของบัญชี Take or Pay ณ วันที่ 30 พ.ย. 2564 จํานวน 13,594 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในระหว่างการดำเนินการคืนภาครัฐทั้งหมดไปช่วยอุดหนุนค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (Ft) โดยนําส่งเงินและลดราคาค่าก๊าซธรรมชาติให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อลดค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน