5 โครงการหลัก EEC เดินหน้าตามเป้า
กพอ.เผย เอกชนเดินหน้าร่วมลงทุน 5 โครงการหลัก EEC ตามเป้า พร้อมจัดทำแผน “ยกระดับ” สุขภาพประชาชนในพื้นที่อีอีซี เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณสุข 9 ประเภท
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(กพอ.) เปิดเผย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบ 5 โครงการหลัก ซึ่งเอกชนเดินหน้าร่วมลงทุนตามเป้าหมาย คือ
1.โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ผ่านการประเมินข้อเสนอ ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในเดือน ม.ค. นี้ โดยอัยการจะตรวจร่างสัญญาแล้วเสร็จและเสนอ กพอ.อนุมัติผลการคัดเลือกภายในเดือน ก.พ. ก่อนนำเสนอ ครม.
2.โครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก อยู่ระหว่างการตอบคำถามผู้ซื้อเอกสารการคัดเลือก และจะประชุมชี้แจงเอกสารการคัดเลือกเอกชน ครั้งที่ 2 ในวันที่ 8 ก.พ. 62 โดยกำหนดให้เอกชนยื่นข้อเสนอในวันที่ 28 ก.พ. 62 คาดว่าจะได้ผู้ผ่านการประเมินภายในกลางเดือน เม.ย.62
3.โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ท่าเทียบเรือ F หลังจากการเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอในวันที่ 14 ม.ค. 62 มีผู้สนใจยื่นข้อเสนอ 1 ราย และไม่ผ่านการประเมินคุณสมบัติ คณะกรรมการคัดเลือกได้พิจารณาแล้วให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย รับฟังความคิดเห็นภาคเอกชนอีกครั้งในวันที่ 21 ม.ค. 62 โดยนำความคิดเห็นภาคเอกชนมาปรับปรุงเอกสารคัดเลือกให้เป็น International Bidding มากขึ้น และประกาศเชิญชวนเชิญชวนการคัดเลือกเอกชนในวันที่ 24 ม.ค. 62 ขายเอกสารคัดเลือกเอกชนฉบับแก้ไข 28 ม.ค. – 1 ก.พ. 62 โดยให้เอกชนยื่นข้อเสนอใหม่วันที่ 29 มี.ค. 62 คาดว่าจะได้ผู้ผ่านการประเมินภายในเดือน เม.ย. 62
4.โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 สิ้นสุดการตอบคำถามเกี่ยวกับเอกสารการคัดเลือกเอกชนในวันที่ 22 ม.ค. 62 ให้เอกชนยื่นข้อเสนอในวันที่ 6 ก.พ. 62 คาดว่าจะประกาศผู้ผ่านการประเมินภายในเดือน มี.ค. 62
5.โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา อยู่ระหว่างให้เอกชนส่งคำถามผ่านอีเมล ถึงวันที่ 4 ก.พ. 62 และเปิดให้ตรวจสอบข้อมูลโครงการ ถึงวันที่ 1 ก.พ. 62 หลังจากนั้นจะเปิดซองข้อเสนอจากบริษัท Airbus S.A.S. ในวันที่ 18 ก.พ. 62 และประเมินข้อเสนอแล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ. 62
และจัดทำแผน “ยกระดับ” สุขภาพประชาชนในพื้นที่อีอีซี เพื่อให้ประชาชนทุกคนในพื้นที่ได้รับความคุ้มครองด้านการบริการสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึง ได้อย่างน้อย 9 ประเภท คือ (1) สิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ (2) สิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลของรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานรัฐประเภทอื่น ๆ (3) สิทธิประกันสังคม (4) สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) (5) สิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ที่อยู่ระหว่างพิสูจน์สถานะและสิทธิ (6) สิทธิประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าวที่ได้รับสิทธิประกันสังคม (7) สิทธิประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าวที่ได้รับการผ่อนผัน (8) สิทธิประกันคุ้มครองเอกชน และ (9) สิทธิประกันสุขภาพนักท่องเที่ยว