ปี 61 เหล็กไร้มาตรฐาน ทะลักเข้าไทยกว่า 2,000 ลบ.
สมอ. เผยปี 61 ยึดสินค้าไม่ได้มาตรฐานกว่า 2,150 ล้านบาท เหล็กครองแชมป์สูงสุด วางแผนปี 62 เน้นตรวจกลุ่มสินค้าประเภท เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ปลั๊กพ่วง สายไฟ ของเล่น หมวกกันน็อก
นายวันชัย พนมชัย รองเลขาธิการ รักษาราชการแทน เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เปิดเผยผลการดำเนินงานในรอบปี 2561 ด้านการตรวจควบคุมและกำกับติดตามคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามมาตรฐาน พบการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม พ.ศ.2511 และได้ดำเนินการยึดอายัดมูลค่ารวมกว่า 2,150 ล้านบาท ประกอบด้วย เหล็ก มูลค่า 2,084.45 ล้านบาท ,ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มูลค่า 65.01 ล้านบาท ,โภคภัณฑ์ มูลค่า 4.16 ล้านบาท , อาหาร มูลค่า 3.11 ล้านบาท ,ปิโตรเคมีและโพลิเมอร์ มูลค่า 2.47 ล้านบาท,เครื่องกล มูลค่า 0.22 ล้านบาท, ยาง มูลค่า 0.088 ล้านบาท,สีและวาร์นิช มูลค่า 0.053 ล้านบาท,เคมี มูลค่า 0.0019 ล้านบาท
ขณะนี้ ผลิตภัณฑ์ที่กฎหมายกำหนดให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน (มาตรฐานบังคับ) มีจำนวน 109 รายการ ซึ่งผู้ทำและผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ต้องได้รับอนุญาตจาก สมอ. ก่อนทำและนำเข้า ขณะเดียวกันผู้จำหน่ายก็ต้องจำหน่ายสินค้าที่มีเครื่องหมาย มอก. เท่านั้น
ทั้งนี้หากพบว่ายังมีผู้ประกอบการและร้านค้ากระทำผิด จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันทีและมีบทลงโทษตามฐานความผิด สำหรับบทลงโทษในกรณีทำหรือนำเข้าผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมโดยไม่ได้รับใบอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนร้านค้าที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และแสดงเครื่องหมาย มอก. โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับตั้งแต่ 100,000 – 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ เพื่อปกป้องคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าที่มีคุณภาพ
นายวันชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2562 สมอ. มีแผนการตรวจติดตามโรงงานผู้ผลิตแลร้านจำหน่ายทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง เน้นกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ปลั๊กพ่วง สายไฟ ของเล่น หมวกกันน็อก เป็นต้น และขณะนี้ สมอ. อยู่ระหว่างการปรับแก้กฎหมายให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน คาดว่าจะประกาศใช้ได้ในปี 2562