เปิด App สินค้าชุมชน 77 จังหวัด
กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดตัว Application สินค้าอุตสาหกรรมชุมชน “77 มีดี มาโชว์” ช่วยให้ประชาชนได้เข้าถึงแหล่งผลิตสินค้าดีได้มาตรฐานจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ และเพิ่มช่องทางการตลาดแก่ผู้ประกอบการท้องถิ่น และ SMEs
ดร.สุรพล ชามาตย์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยในพิธีเปิดตัว Application สินค้าอุตสาหกรรมชุมชน ภายใต้ชื่อ “77 มีดี มาโชว์” (ThaiBest Products) ว่า Application สินค้าอุตสาหกรรมชุมชน จะเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้ประกอบการและประชาชน โดยช่วยให้ประชาชนได้เข้าถึงแหล่งผลิตสินค้าดี/เด่น และของได้มาตรฐานจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ ได้สะดวก ง่าย และรวดเร็วขึ้น รวมทั้งเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดแก่ผู้ประกอบการท้องถิ่น และ SMEs คนตัวเล็ก ทำให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่าง 1. ผู้ผลิตกับผู้ผลิต (B 2 B) ในลักษณะการร่วมลงทุน เกิดการซื้อขายกันปริมาณที่มาก ระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่กับผู้ผลิตรายย่อยในพื้นที่ และ 2. ผู้ผลิตกับผู้บริโภค (B 2 C) ซึ่งสามารถซื้อสินค้าได้โดยตรงไม่ผ่านตัวแทนจำหน่าย
นอกจากนี้ ยังได้เชื่อมโยงการค้าขายผ่านทางระบบ E-payment กับ 5 หน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เพื่อการใช้ประโยชน์ข้อมูลจาก Application อันจะช่วยสร้างโอกาสทางการตลาด และพัฒนาไปสู่เศรษฐกิจ Digital ให้ประเทศไทยก้าวไปสู่ Thailand 4.0
“Application นี้ได้คัดสรรของดี ของเด่น สินค้าอุตสาหกรรมชุมชนของทั้ง 77 จังหวัด ที่มีมากกว่า 420 กลุ่ม โดยข้อมูลใน Application ประกอบด้วย เรื่องราว (Story) ของสินค้าแต่ละชนิด ซึ่งสะท้อนและเชื่อมโยงวิถีชีวิตและภูมิปัญญาของท้องถิ่น และบอกเล่าเรื่องราวที่เป็นอัตลักษณ์ของ สถานประกอบการ แต่ละรายสั้นๆ พร้อมทั้งมี ภาพ คลิป ข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ เป็นของดีของเด่นของจังหวัด รวมถึงมีการระบุพิกัดสถานที่ตั้งของสถานประกอบการ ช่องทางการติดต่อสื่อสาร เพื่อประโยชน์ในการเดินทาง การติดต่อ และการค้าขายผ่านทางระบบออนไลน์ โดยสินค้าส่วนใหญ่ในนี้ ลักษณะจะเป็นของขวัญ ของฝาก ของที่ระลึก ที่ต้องซื้อติดมือกลับไป เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวของจังหวัดและการท่องเที่ยวเมืองรอง ตามนโยบายรัฐบาล” ดร.สุรพล กล่าว
ทั้งนี้ ภายใน Application สินค้าอุตสาหกรรมชุมชนได้เพิ่มภาษาสำหรับข้อมูลต่างๆ นอกจาก มีภาษาไทยแล้ว ในอนาคตยังจะมี ภาษาจีน อังกฤษ และญี่ปุ่น เพื่อให้การใช้งานมีความสะดวกโดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ในประเทศไทย ปีละกว่า 20 ล้านคน และคนไทยที่ชอบเดินทางท่องเที่ยว.