สรุปข่าวประจำ วันที่ 18 กันยายน 2564
หุ้นโลกดิ่ง : ปิดตลาดเช้า 18 ก.ย. ดาวโจนส์ปรับตัวลดลง -166.44 จุด (-0.48%) ปิดที่ 34,584.88 จุด เอสแอนด์พี -40.76 จุด (-0.91%) ปิดที่ 4,432.99 จุด เช่นเดียวกับ แนสแดค -137.96 จุด (-0.91%) ปิดที่ 15,043.97 จุด ขณะที่ นิเคอิ ปรับเพิ่มขึ้น +176.71 จุด (+0.58%) ปิดที่ 30,500.05จุด ส่วนตลาดหุ้นไทย ปิดทำการซื้อขายที่ 1,625.65 จุด ลดลง -6.05 จุด (-0.37%) มูลค่าการซื้อขาย 105,671.89 ล้านบาท
น้ำมันไทยสวนโลก : สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือน ต.ค.64 ปิดลดลง -0.59ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (-0.81%) ปิดที่ 71.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ส่งมอบ เดือน พ.ย.64 ปิดที่ -0.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (-0.48%) ปิดที่ 75.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลง ทว่าราคาน้ำมันสำเร็จรูปขายปลีกในไทย กลับขึ้นสวนทาง โดย 2 บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ ประกาศขึ้นราคาอีกลิตรละ 30-50 ส.ต. มีผลตั้งแต่เช้าวันนี้เป็นต้นไป
ทองขาขึ้น : ราคาทองคำ Spot ดอลลาร์สหรัฐ ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า +1.17 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (+0.07%) ปิดที่ 1,754.97 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านสมาคมค้าทองคำประกาศเปลี่ยนแปลงราคาทองคำตลอดวัน 6 ครั้ง โดยมีราคาเปิดลดลงจากราคาปิดวันก่อนมากถึง 250 บาท ก่อนที่ราคาจะสวิงขึ้นลงตลอดทั้งวัน และไต่ระดับราคาขึ้นมา กระทั่ง ช่วงปิดตลาด -100 บาท กำหนดราคาซื้อทองคำแท่ง บาทละ 27,700 ขาย 27,800 บาท ขณะที่ราคาซื้อทองคำรูปพรรณ 27,197.04 บาท และขาย 28,300 บาท
ค่าบาทอ่อนเล็กๆ : ธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท เมื่อ 17 ก.ย. ไว้ที่ 33.180 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า ที่ระดับ 32.926 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ
แววตามีหวัง : พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุตอนหนึ่งว่า แม้ยังอยู่ในวิกฤตโควิด แต่ตัวเลขการส่งออกไทยช่วง ก.ค. ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง 20.27% สูงสุดในรอบ 11 ปี และมีแนวโน้มว่าตลอดปี 64 จะขยายตัว 12.4% สำหรับการนำพาประเทศให้ผ่านวิกฤต รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมโครงสร้างพื้นฐานในทุกด้าน ตลอด 6 ปี การลงทุนของภาครัฐขยายตัว 7.9% เพื่อส่งเสริมการประกอบอาชีพในเขต EEC สร้างนวัตกรรม อาชีพ และรายได้อย่างมหาศาลในอนาคต โดย 3 ปี ลงทุนไปแล้วกว่า 1.6 ล.ล. ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ ตนสังเกตเห็นแววตาที่มีความหวังของทุกคน และรอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยมิตรไมตรี ยิ่งทำให้มีกำลังใจในการทำงานเพื่อคนไทยทุกคน พร้อมประกาศปลุกปชช. ร่วมสร้างภูมิต้านทานในการติดตามอ่านเรื่องราวในโลกโซเชียล ยืนยันจะทำให้บ้านเมืองสงบ เพื่อพลิกโฉมประเทศให้กลับมาน่าอยู่
เอาจริงทุจริต : น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศธ. กำชับให้ผู้บริหารในสังกัดทุกแห่ง ทำงานอย่างโปร่งใส หากพบการทำผิดทุจริตต่อหน้าที่ เรียกรับผลประโยชน์รูปตัวเงินหรือสิทธิหรือประโยชน์อื่นใด จะดำเนินการทางวินัยทั้งผู้กระทำผิด และผู้บังคับบัญชาฐานปล่อยปละ ละเลย ไม่สนองนโยบายของรัฐบาล โดยพิจารณาโทษอย่างเด็ดขาดสถานหนัก ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่น ด้านนายชวน หลีกภัย ปธ.สภาผู้แทนราษฎร แนะ ป.ป.ช. ให้นำเสนอเรื่องราวของ ขรก.ที่เกรงใจนาย กระทั่ง ตัวเองต้องติดคุก รวมถึงกรณีการติดคุกของนายกฯและรมต.ในอดีต มาเป็นเครื่องเตือนใจ
ขอบคุณลิซ่า : วันแรกของ “เทศกาลลูกชิ้นยืนกิน” ปี 64 ที่ จ.บุรีรัมย์ มีประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยว มาเซลฟี่ที่เช็คอินป้ายลูกชิ้นยืนกิน และรูปของลิซ่าที่ถือลูกชิ้น อีกทั้งต่อคิวซื้อลูกชิ้นยืนกินคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า โดยพ่อค้าแม่ค้าร้านขายลูกชิ้นยืนกินก็ยังคงทยอยแพ็กลูกชิ้น ส่งให้ลูกค้าที่สั่งผ่านออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งรูปแบบงานเป็นแบบนิวนอร์มอล ภายใต้มาตรการควบคุมที่เข้มงวด โดยในงานได้จัดเซอร์ไพร์สขอบคุณ “ลิซ่า แบล๊คพิงค์” ที่ทำให้ลูกชิ้นยืนกินของจ.บุรีรัมย์ เป็นที่รูจักไปทั่วโลก และทำให้ยอดขายคึกคักมากขึ้นหลังซบเซาจากพิษโควิดฯ
กทม.แซนด์บ็อกซ์ : พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผช. โฆษก ศบค. แถลงถึงกรณีที่เตรียมเปิดพื้นที่นำร่อง กทม.แซนด์บ็อกซ์ และหลายจังหวัด เพื่อรับนักท่องเที่ยว โดยในส่วนของกทม. ทาง ศปก.ศบค.ยังไม่มีมติในเรื่องนี้ โดยต้องหารือร่วมกับในส่วนที่เกี่ยวข้อง และจำเป็นต้องเสนอผ่านกระทรวงสาธารณสุขเพื่อให้มีการตรวจสอบมาตรการอย่างรอบคอบประณีต รัดกุม เพราะ กทม. เป็นพื้นที่ใหญ่และมีความหลากหลายในพื้นที่จึงต้องมีการพิจารณาอย่างละเอียด รอให้ ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาอีกที
สอบทักษิณซื้อเครื่องบิน :โฆษก ป.ป.ช. ระบุ ที่ประชุม คกก. ป.ป.ช.ชุดใหญ่ มีมติตั้งองค์คณะไต่สวน กรณีข้อกล่าวหา อดีตทักษิณ ชินวัตร และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.คมนาคม พร้อมพวก รวม 5 คน คือ บอร์ดการบินไทยยุคนั้น ที่อนุมัติจัดซื้อเครื่องบินแบบ A 340-500 จำนวน 4 ลำ และ A 340-600 จำนวน 6 ลำ ของบมจ.การบินไทย ระหว่างปี 45-47 รวมมูลค่า 53,536 ล้านบาท ส่งผลให้ บมจ.การบินไทยแบกภาระหนี้เป็นจำนวนมากมาจนถึงทุกวันนี้
สัปดาห์หน้าฝนหนัก : ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะมีฝนตกชุก จนเกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ แต่นั่นยังไม่มากที่สุด ล่าสุด กรมอุตุฯ ประกาศเตือนช่วง 20-23 ก.ย.ว่า จะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีลมพายุหมุนเขตร้อนเข้าประเทศเวียดนาม ผ่านทางด้านอ่าวไทย ซึ่งจะทำให้เกิดพายุฝนถล่มหนักในช่วงเวลาดังกล่าว