สรุปข่าวประจำวันที่ 14 สิงหาคม 2564
นิเคอิดิ่ง : ปิดตลาดดาวโจนส์ +15.53 จุด (+0.044%) ปิดที่ 35,515.38 จุด เอสแอนด์พี +7.17 (+0.16%) ปิดที่ 4,468.00 จุด แนสแดค +6.64 จุด (+0.045%) ปิดที่ 14,822.90จุด นิเคอิ -37.87จุด (-0.14) ปิดที่ 27,977 จุด ส่วนตลาดหุ้นไทย ปิดทำการซื้อขายที่ 1,528.32 จุด ลดลง -4.39 จุด (-0.29%) มูลค่าการซื้อขาย 82,024.22 ล้านบาท
น้ำมันโลกลงอีก : สัญญาซื้อขายล่วงหน้า ปิดตลาด 13 ส.ค. น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือน ก.ย. ปิด -1.06ด อลลาร์ต่อบาร์เรล (-1.53%) ปิดที่ 68.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ส่งมอบ เดือน ต.ค. -1.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (-1.50%) ปิดที่ 70.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านราคาน้ำมันขายปลีกในไทย หลัง 2 ค่ายใหญ่ประกาศปรับขึ้นไปแล้วเมื่อ 2 ก่อน ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณใดๆ.
เป็นทีของร้านทอง : ราคาทองคำ Spot ดอลลาร์สหรัฐ ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า +26.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (+1.53) ปิดที่ 1,779.81 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านสมาคมค้าทองคำประกาศเปลี่ยนแปลงราคาทองคำตลอดวันมากถึง 6 ครั้งเดียว โดยมีราคาเปิดเพิ่มจากราคาปิดวันก่อน 100 บาท จากนั้น ราคาก็ขยับขึ้นตลอดวัน จนปิดตลาด ปรับเพิ่มขึ้นจากวันก่อนถึง 300 บาท กำหนดราคาซื้อทองคำแท่ง บาทละ 27,650 บาท ขาย 27,750 บาท ขณะที่ราคาซื้อทองคำรูปพรรณ 27,151.56 บาท และขาย 28,250 บาท.
33.281 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์ สรอ.
ค่าบาทแข็งบางๆ : ธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท เมื่อ 13 ส.ค. ไว้ที่ 33.281 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับวันก่อนหน้า คือ 11 ส.ค. (หยุดทำการ 12 ส.ค.) ที่ระดับ 33.382 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวขึ้นน้อยมาก.
ยก ม.คุมโควิด : โฆษกรัฐบาล ระบุ นายกฯเป็นประธานประชุมติดตามการดูแลผู้ติดเชื้อโควิดระบบแยกกักตัวที่บ้าน (HI) และในชุมชน (CI) โดยยืนยันรัฐบาลและศบค.ให้ความสำคัญในการพัฒนา ปรับปรุงมาตรการควบคุมอย่างเป็นลำดับ ทำให้ขณะนี้จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อฯใกล้เคียงกับผู้รักษาหายแล้ว ซึ่งเป็นความสามารถของแพทย์และระบบสธ.ไทย ทั้งนี้ หลักการ HI/CI คือ รองรับผู้ป่วยตามคำวินิจฉัยแพทย์ เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยรอเตียง และลดอัตราการเสียชีวิตที่บ้าน จึงจำเป็นต้องปรับปรุงกระบวนการดูแลระบบ HI/CI ทั่วประเทศ.
ล็อกดาวน์เอาอยู่? : โฆษก ศบค. แถลงเมื่อ 13 ส.ค.ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 23,418 ราย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 863,189 ราย อยู่ระหว่างรักษา 212,179 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 184 ราย เสียชีวิตสะสม 7,126 ราย และมียอดฉีดสะสม 22,508,659 โดส ทั้งนี้ ที่ประชุม ศปก.ศบค. กรมควบคุมโรค คาดการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต ในช่วงปลาย ส.ค.ถึงต้น ก.ย. หากไม่มีการล็อกดาวน์ใดๆ จะมีผู้ติดเชื้อวันละ 6-7 หมื่นคน และผู้เสียชีวิตกว่า 800 คน.
โปร่งใสไฟเซอร์ : ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน แจงการบริหารวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส ว่า โปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่มีล็อตไหนสูญหาย โดยได้แบ่งชัดเจนว่าจะไปในกลุ่มใดบ้าง และไม่มีประเด็นฉีดวีไอพี หากประชาชนพบและมีข้อสงสัย สามารถแจ้งเพื่อตรวจสอบได้ โดยจัดสรรให้บุคลากรทางการแพทย์และสธ.กลุ่มเสี่ยง 700,000 โดส จัดสรรลงพื้นที่ระบาด 645,000 โดส ใช้เพื่อศึกษาวิจัย 5,000 โดส ให้กลุ่มประชากรที่ ก.ต่างประเทศดูแล 150,000 โดส.
โควิดพุ่งที่ปากน้ำ : นพ.สธ.สมุทรปราการ ระบุ สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิดฯ ใน จ.สมุทรปราการ เมื่อ 13 ส.ค. ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,936 ราย เสียชีวิต 12 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 530 ราย การตรวจคัดกรองเฝ้าระวังในคลินิก ARI และในชุมชน 277,122 ราย พบเชื้อ 47,143 ราย ผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่ตั้งแต่ 1 เม.ย. จนถึงปัจจุบัน 55,545 ราย ในพื้นที่ 47,143 ราย นอกพื้นที่ 8,402 ราย กำลังรักษาใน รพ.ของรัฐ 2,875 ราย รพ.เอกชน 3,218 ราย รักษาใน Hospitel ม.ราชภัฏธนบุรีสมุทรปราการ 1,265 ราย.
เขมรขอฉีดเอง : กงสุลใหญ่กัมพูชา ประจำจ.สระเเก้ว ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแรงงานกัมพูชาและเข้าพบ ผจว.สระแก้ว หลังมีแรงงานกัมพูชาในตลาดโรงเกลือติดโควิดฯมากกว่า 1,000 คน โดยขอให้ทางผู้ว่าฯเปิดด่าน เพื่อให้ทางการกัมพูชานำวัคซีนเข้ามาฉีดให้แก่แรงงานกัมพูชา ด้วยการตั้งเต้นท์และจุดชั่วคราวในตลาด หรือบริเวณด่านชายแดนก็ได้ แต่ถ้าไม่ได้ก็ขอแค่ให้แรงงานกลุ่มนี้สามารถเดินเข้าไปฉีดวัคซีนในฝั่งกัมพูชา และเมื่อฉีดเสร็จให้สามารถเดินกลับมาฝั่งไทยได้.
ค้ากำไรเกินควร : รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ระบุหลังการประชุม คกก.กลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ว่า ก.พาณิชย์ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่จำหน่ายยาฟ้าทะลายโจร และชุดตรวจโควิด-19 ด้วยตนเอง (ATK) ที่นำสินค้าไปขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ คือ ลาซาด้า และช้อปปี้แล้วรวม 11 ราย ในข้อหาค้ากำไรเกินควร ซึ่งเป็นความผิดมาตรา 29 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542.