ก.พลังงาน เพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน แผน PDP ใหม่ กว่า 20%
กระทรวงพลังงาน เตรียมสรุปแผน PDP ฉบับใหม่สัปดาห์หน้า พร้อมเปิดการรับฟังความคิดเห็นเดือน ก.ย.ก่อนเสนอครม.ประกาศใช้ เผยได้ปรับเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 20% เนื่องจากต้นทุนการผลิตไฟฟ้าปรับตัวลดลง และมีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยขึ้น
นายสมภพ พัฒนอริยางกูล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ และโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ แผนพีดีพีฉบับใหม่ (แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ Power Development Plan : PDP) ที่จะออกมาในเดือน ก.ย.นี้ เพื่อสรุปหลักการได้ หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการรับฟังความคิดเห็นในช่วงเดือน ก.ย. ก่อนจะสรุปเพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามลำดับ ก่อนที่จะประกาศใช้ต่อไป
สำหรับแผนพีดีพีฉบับใหม่นี้ จะทำให้ภาคธุรกิจและนักลงทุนมั่นใจในทิศทางพลังงานของไทยมากขึ้น ซึ่งได้คาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าและการจัดหาปริมาณไฟฟ้าให้เพียงพอกับความต้องการใช้ไฟฟ้าในระยะยาว รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมที่จะออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าต่อไปในอนาคต
อย่างไรก็ดีแผนพีดีพีฉบับใหม่ของไทยที่จะออกมาในเดือน ก.ย.ที่จะถึงนี้ จะมีการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 20% จากปัจจุบันอยู่ที่ 15-20% จากการที่ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนปรับตัวลดลง และมีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยขึ้น
สำหรับน้ำมันยังคงเป็นพลังงานหลักของโลกที่มีการใช้มากที่สุด และยังมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่เป็นอุตสาหกรรมหลักที่มีความต้องการใช้น้ำมันเป็นจำนวนมาก เพราะน้ำมันเป็นวัตถุดิบหลักของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับปิโตรเคมี แม้ว่าจะมีการหาพลังงานประเภทต่างๆเข้ามาทดแทนการใช้น้ำมัน แต่ในระยะสั้น-กลาง ยังคงมองว่าน้ำมันยังมีความสำคัญที่ทุกภาคส่วนยังมีความต้องการใช้
รวมถึงก๊าซที่ยังมีความต้องการใช้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการเตรียมการของไทยนั้นจะต้องมีการจัดหาแหล่งก๊าซเข้ามาเพิ่มเติม เพื่อมีปริมาณสำรองไว้ใช้และสร้างความมั่นคงให้กับพลังงานของไทย
“แนวโน้มของความต้องการใช้พลังงานของโลกมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีการปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานอยู่ตลอดเวลา โดยที่พลังงานไฟฟ้าเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เนื่องจากประชากรโลกทั้งภาคธุรกิจและครัวเรือนมีการใช้ไฟฟ้าอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งกระแสการผลักดันรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความจริงจังมากขึ้น ทำให้แนวโน้มการใช้ไฟฟ้าในอนาคตจะเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังเห็นการลงทุนด้านไฟฟ้าของผู้ประกอบการต่างๆทั่วโลก” นายสมภพ กล่าว.