รถยนต์ค้างสต็อก! ล็อกดาวน์ โควิด
ส.อ.ท.เผย ล็อกดาวน์ในเดือนเมษายนและห้ามจัดงานมอเตอร์โชว์ปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ทำให้สต็อกรถยนต์ในโชว์รูมยังมีจำนวนมาก
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยยอดการผลิต เดือนพฤษภาคม 2564 มีทั้งสิ้น 140,168 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 150.14 จากการผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 126.01 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 193.39 เพิ่มขึ้นจากฐานต่ำปีที่แล้วที่มีการล็อกดาวน์ในเดือนเมษายนและห้ามจัดงานมอเตอร์โชว์ปลายเดือนมีนาคม ทำให้สต็อกรถยนต์ในโชว์รูมยังมีจำนวนมาก บางบริษัทจึงยังไม่มีการผลิตรถยนต์ในเดือนพฤษภาคม แต่การผลิตรถยนต์ในเดือนพฤษภาคมปีนี้ยังสูงกว่าเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 34.32 แต่น้อยกว่าเดือนพฤษภาคม 2562 ก่อนเกิดโควิด 19 ร้อยละ 22.70
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนพฤษภาคม 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 55,942 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 38.4 ขายในประเทศสูงกว่าเพราะฐานต่ำปีที่แล้ว แต่ลดลงจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 3.77 เพราะการระบาดของโควิด 19 ระลอกสาม ประชาชนยังกังวลเรื่องรายได้ในอนาคตรวมทั้งสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อด้วย และยังน้อยกว่าเดือนพฤษภาคม 2562 ร้อยละ 35.76
การส่งออก รถยนต์สำเร็จรูป เดือนพฤษภาคม 2564 ส่งออกได้ 79,479 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 165.87 ส่งออกเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงเพราะฐานที่ต่ำปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 50.30 เพราะประเทศคู่ค้าเริ่มมียอดขายรถยนต์ในประเทศดีขึ้นเช่น ออสเตรเลียขายรถยนต์เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมปีก่อนร้อยละ 68.3 เวียดนามขายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 34.1 ญี่ปุ่นขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 46.3 อินโดนีเซียขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 1,443 เป็นต้น
อย่างไรก็ตามยังส่งออกน้อยกว่าเดือนพฤษภาคม 2562 ร้อยละ16.63 มูลค่าการส่งออก 48,416.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ร้อยละ 176.62 เมื่อประเทศคู่ค้าเริ่มมีการผลิตรถยนต์มากขึ้น จึงส่งออกเครื่องยนต์และชิ้นส่วนเพิ่มขึ้น