กสิกรหนุน SMEs ชงส่งออกตลาด AEC+3
กสิกรไทยเดินหน้าหนุนเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชน ขายสินค้าผ่าน K PLUS Market การตลาดออนไลน์ที่มีลูกค้าทะลุ 9 ล้านคน หวังเพิ่มโอกาสให้ผู้ค้ากว่า 1,200 ราย ตั้งเป้ายอดขายเบาะๆ แค่ 100ล้าน เผยพร้อมดันสินค้าไทยส่งออกเพื่อนบ้าน AEC+3 ผ่านเครือข่าย 16 สาขาและแบงก์พันธมิตรอีกกว่า 70 แห่งทั่วภูมิภาค
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวภายหลังพิธีลงนามในความร่วมมือสนับสนุนเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชน ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมและกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ว่าธนาคารฯพร้อมสนับสนุนโครงการนี้ เนื่องจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนถือเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทยในยุค 4.0 ซึ่งธนาคารฯจะให้ความช่วยเหลือใน 4 ด้าน ประกอบด้วย 1.การต่อยอดธุรกิจ เชื่อมโยงผู้ซื้อและผู้ขายกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการขยายตลาดออนไลน์ ได้พบกับลูกค้ารายย่อยที่ใช้งาน K PLUS กว่า 9 ล้านราย ผ่าน K PLUS Market โดยจะเป็นสื่อกลางการติดต่อซื้อขายรวบรวมสินค้าหรือบริการจากร้านค้า บริษัทในกลุ่มธุรกิจต่างๆ เพื่อให้เกิดการซื้อขายสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ไร้ข้อจำกัดเรื่องเวลา พร้อมนำเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytic)ควบคู่การใช้ Machine Learning นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ส่วนลูกค้ารายย่อย จะได้รับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ตรงกับความต้องการของลูกค้า
2.สนับสนุนแหล่งเงินทุนและบริการทางการเงิน ด้วยการสร้างโมเดลวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าทั้งพฤติกรรมด้านการเงินและความต้องการ พร้อมนำเสนอสินเชื่อออนไลน์ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีผ่านเมนูLife PLUS บนแอป K PLUS ตลอดจนแนะนำบริการทางด้านการเงินและสินเชื่อต่าง ๆ หรือช่องทางการชำระเงินต่าง ๆ ของธนาคารที่เหมาะสมกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชน
3.สนับสนุนการประชาสัมพันธ์ การสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการ ทั้งในและนอกประเทศให้แข็งแกร่งผ่านทั้งช่องทางที่เป็น Offline และช่องทาง Online และการเชื่อมโยงข้อมูล เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการค้า การลงทุน และการจัดจำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชน รวมถึงสนับสนุนข้อมูล แลกเปลี่ยนข้อมูล และองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
สำหรับแนวทางที่ 4 นายปรีดีกล่าวว่า เป็นช่องทางเสริมจากการทำตลาดออนไลน์ กล่าวคือ ผู้ประกอบการในกลุ่มนี้ สามารถจะส่งออกสินค้าไปยังประเทศคู่ค้าใน AEC+3 ที่มีผู้ซื้อมากกว่า 1,000 ล้านคน อันเป็นผลมาจากความก้าวของเทคโนโยลีของโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Technology) และความพร้อมของระบบ Logistics ได้เปิดโอกาสในการขยายธุรกิจให้กับเอสเอ็มอีไทยอย่างไร้พรมแดน ทั้งนี้ธนาคารกสิกรไทยมีเครือข่ายการให้บริการที่ครอบคลุม AEC+3 กว่า 16 สาขา และธนาคารพันธมิตรกว่า 70 แห่งทั่วภูมิภาค
“เฉพาะการทำเครือข่ายตลาดออนไลน์ผ่าน K PLUS Market ที่มีฐานผู้ค้ารายย่อยเดิมกว่า 100 รายนั้นเมื่อรวมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนอีกราว1,200 รายที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเชิญชวนเข้ามาในช่วงนี้ น่าจะทำให้เกิดการซื้อสินค้าในข่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท” นายปรีดี ระบุ
ด้านนายสมชาย หาญหิรัญ รมช.อุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงฯได้รับนโยบายจากรัฐบาลให้เร่งส่งเสริมและสนับสนุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนให้เข้าสู่การแข่งขันใรนระดับสากลได้ ทั้งในด้านองค์ความรู้ในการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ จึงจำเป็นต้องพัฒนาผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ให้มีศักยภาพในการบริหารจัดการองค์กร และดำเนินธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเชิงนวัตกรรมที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทุกมิติ รวมทั้งยกระดับความสามารถในการแข่งขันสู่สากล
“เป็นที่น่ายินดีที่กระทรวงอุตสาหกรรมและกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย โดยก่อนหน้านี้มีผู้ส่งออกรายหนึ่งมาเล่าให้ฟังถึงการเข้าร่วมทำการตลาดออนไลน์ ผ่าน K PLUS Marketจนต้องขอปรับเพิ่มวงเงินสินเชื่อจากเดิมที่ทำเรื่องไว้กับเอสเอ็มอี ดี แบงก์ จำนวน 3 ล้านบาท เป็น 10ล้านบาท เนื่องจากมีออร์เดอร์สั่งซื้อสินค้าผ่านแอพพลิเคชั่นนี้เป็นจำนวนมากเกินที่ตั้งเป้าเอาไว้”รมช.อุตสาหกรรม ย้ำ.