เร่งสร้างเครือข่ายนอกแบงก์สกัดแฮ็กเกอร์
สมาคมธนาคารไทยส่งสัญญาณสร้างเครือข่ายป้องกันแฮกเกอร์นอกกลุ่มแบงก์แล้ว คาดลงตัวพร้อมขับเคลื่อนในอีกไม่ช้านี้ ด้านสภาอุตสาหกรรมชี้ห่วงเอสเอ็มดีตกเป็นเหยื่อภัยไซเบอร์
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวถึงกรณี นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาเตือนให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมตระหนักและหาทางป้องกันการแฮ็กข้อมูลของผู้ไม่หวังดีจากต่างประเทศ ว่า ในส่วนของสมาคมธนาคารไทยและสมาชิก (ธนาคารพาณิชย์) มีการทำงานร่วมกันอย่างเข้มข้น ที่สำคัญเราได้ประชุมหารืออย่างต่อเนื่องผ่านช่องทางของศูนย์ประสานงานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศภาคการธนาคาร (Thailand Banking Sector CERT : TB-CERT) โดยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน และร่วมกันหาแนวทางรับมือและป้องกันภัยจากแฮ็กเกอร์ต่างชาติ ซึ่งเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยลดปัญหาการแฮ็กข้อมูลได้อย่างมาก
“การนำดิจิทัลเทคโนโลยีมาใช้ ถือเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นของอุตสาหกรรมการธนาคารที่จะขาดหรือละเลยสิ่งนี้ไม่ได้ แต่ก็มีคนบางกลุ่มที่พยายามทำในสิ่งตรงกันข้าม อย่างไรก็ตาม ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งต่างก็ลงทุนจำนวนมากกับการพัฒนาดิจิทัลเทคโนโลยีและการสร้างระบบป้องกันการแฮ็กข้อมูลจากผู้ไม่หวังดี” นายปรีดี กล่าวและว่า นอกจากนี้ สมาคมธนาคารไทยยังได้ประสานไปยังภาคธุรกิจอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ เพื่อสร้างความร่วมมือกัน คาดว่าคงจะได้เห็นความร่วมมือดังกล่าวในเวลาไม่นานนัก
ด้านนายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ในส่วนของบริษัทขนาดใหญ่ในไทยนั้น ไม่น่าเป็นห่วงเนื่องจากมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัย รวมถึงตั้งทีมงานขึ้นมาดูแลและว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาให้คำปรึกษาเป็นการเฉพาะ แต่ที่น่าเป็นห่วงอย่างมากคือ กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เนื่องจากไม่มีงบประมาณและการลงทุนด้านนี้มากพอ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผู้ประกอบการกลุ่มนี้ยังไม่น่าจะตกเป็นเป้าหมายหลักของกลุ่มแฮ็กเกอร์ต่างชาติ.