กรุงไทยคุ้มเข้มแฮกเกอร์ทุกตารางนิ้ว
บิ๊กกรุงไทยยัน แม้ไม่พบปัญหาและความเสียหาย หลังจากแฮกเกอร์เจาะข้อมูลลูกค้ากว่า 1.2 แสนราย ย้ำจากนี้ไปจะเพิ่มคุมเข้ม งัดเทคโนโลขั้นสูงและดึงผู้เชี่ยวชาญระดับโลก มาเอ็กซเรย์ทุกตารางนิ้ว ตลอด 24 ชม. สร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้า
นายผยง ศรีวาณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ยอมรับว่า ธนาคารกรุงไทยถูกเจาะข้อมูลจากแฮกเกอร์ต่างชาติช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา โดยพบการเข้าแฮกข้อมูลทั้งในส่วนของลูกค้าองค์กร(นิติบุคคล) ราว 3,000 ราย และลูกค้าบุคคลอีก 120,000 ราย แต่ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลพื้นฐานจากระบบการจัดเก็บข้อมูลแบบเก่า ซึ่งไม่มีผลต่อความเสียหายใดๆ แก่ลูกค้า เนื่องจากธนาคารฯมีระบบการตรวจสอบ ละป้องกันตลอด 24 ชม. ซึ่งเมื่อพบความผิดปกติเกิดขึ้น จึงทำการหยุดยั้งในทันที
อย่างไรก็ตาม ธนาคารฯได้ประสานกับผู้ชำนาญการและผู้เชี่ยวชาญด้านซีเคียวริตี้เทคโนโลยีระดับโลกเพื่อดำเนินการตรวจสอบและยกระดับการป้องกันการเข้าถึงข้อมูลลูกค้าทั้งหมดแล้ว รวมถึงประสานงานกับธนาคารพาณิชย์อื่นๆ ธนาคารแห่งประเทศไทย และหน่วยงานรัฐที่ดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกับการป้องกันภัยจากเทคโนโลยีแล้ว
“ที่ผ่านมาเราก็กำหนดมาตรฐานตรวจสอบการเข้ามาแฮกข้อมูลลูกค้าทุกประเภทตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่จากนี้ไปคงต้องดึงเอาผู้ชำนาญการเฉพาะด้านจากทั้งในและต่างประเทศรวมถึงนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆทำการตรวจสอบในทุกตารางนิ้ว เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะมีตามมาในอนาคต”
อย่างไรก็ตาม นายผยงยังเชื่อว่า ลูกค้าของธนาคารฯยังคงมั่นใจในมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยจากดิจิทัลเทคโนโลยีของธนาคารฯ พร้อมกันนี้ ยังเรียกร้องให้ประชาชนระมัดระวังการใช้บัตรเครดิตและเดบิต เนื่องจากอาจมีกลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดีแอบนำข้อมูลบัตรไปใช้เพื่อประโยชน์ จึงต้องตรวจทานการนำบัตรไปใช้อย่างรอบคอบ ทั้งนี้ เชื่อว่าจากนี้เมื่อมีการนำเอาระบบคิวอาร์โค้ดมาใช้แทนเงินสดรวมถึงบัตรเครดิตและเดบิต ปัญหาดังกล่าวจะหมดไปในที่สุด
นายผยงยังกล่าวอีกว่า ธนาคารกรุงไทยได้นำระบเทคโนโลยีทางการเงิน โดยเฉพาะระบบคิวอาร์โค้ดมาใช้นำร่องกับกระทรวงการคลัง ส่วนราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจไปแล้วก่อนหน้านี้ รวมถึงนำระบบดังกล่าวมาติดตั้งและใช้กับทุกพื้นที่ ทั้งในระดับตำบลและระดับอำเภอ ผ่านร้านธงฟ้ากว่า 30,000แห่งที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ.