กสิกรหนุนแอพ CU NEX “จุฬาให้สุด” ยุคใหม่
จุฬาฯดึงแบงก์กสิกรร่วมพัฒนา CU NEX Application ใช้ดีมานด์ของนิสิตเป็นตัวตั้งโจทย์ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ ทั้งเรียน เล่น และทำกิจกรรมภายในรั้วมหา’ลัย ดั่งม็อตโต้ “จุฬาให้สุด!” เผยเป้าใหญ่ต่อยอดจุฬายุคใหม่ ด้วยแผนงานเฟส 2 ส่งขึ้นชั้น “ดิจิทัลไลฟ์สไตล์แห่งแรกของไทย”
น.ส.ขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของธุรกิจยุคดิจิทัลทำให้ธนาคารมองเห็นความสำคัญของการสร้างสรรค์บริการและนวัตกรรมแห่งอนาคต มุ่งเน้นให้บริการมากกว่าความเป็นธนาคารทั่วไป เพื่อตอบโจทย์ความต้องการอย่างเต็มประสิทธิภาพของลูกค้า ทั้งนี้ความร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในการพัฒนา CU NEX Application ถือเป็นส่วนหนึ่งที่นำความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลเทคโนโลยีนวัตกรรม โซลูชั่นและข้อมูลผู้บริโภคเชิงลึกมาพัฒนาต่อยอดเพื่อผสานเป็นทุกส่วนของชีวิตu
“เราสนับสนุนจุฬาลงกรณ์ฯด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุด เพื่อร่วมสร้างโซลูชั่นส์รองรับการพัฒนาการบริหารจัดการ การส่งเสริมความรู้ด้านดิจิทัลที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของนิสิต คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนการสอนและการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ก้าวไปสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบภายใต้ความร่วมมือด้านดิจิทัลอย่างเป็นทางการ”
ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบnดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จุฬาลงกรณ์คาดหวังจะเป็นมหาวิทยาลัยชั้นของไทยนำที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนามาพัฒนาองค์กรและสามารถจะนำไปใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อคณาจารย์ บุคลากรทางการศึกษาและนิสิต โดยเฉพาะกลุ่มนิสิตซึ่งถูกนำมาใช้เป็นตัวตั้งในการกำหนดโจทย์เพื่อพัฒนา CU NEX Application นำสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ยุค “จุฬาใหม่” (Chula New Era) ซึ่งจะทำให้จุฬาลงกรณ์เข้าสู่ยุคแห่งดิจิทัลเทคโนโลยีอย่างเต็มแบบแท้จริง
“กสิกรไทยถือเป็นพันธมิตรและผู้นำดิจิทัลเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ดังนั้น CU NEX Application จึงถูกออกแบบและพัฒนามาเพื่อเชื่อมโยงการใช้ชีวิตทุกมิติของนิสิต ไม่ว่าจะเป็นการเรียน เล่น เดินทาง หรือทำกิจกรรมใดๆ ภายในรั้วมหาวิทยาลัยได้อย่างลงตัวและเต็มประสิทธิภาพ แล้วยังช่วยพลิกโฉมหน้าของจุฬาลงกรณ์ให้ก้าวไปสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านดิจิทัลไลฟ์แห่งแรกในประเทศไทย สมดั่งวลีที่พวกเราเรียกกันว่า “จุฬาให้สุด” นั่นเอง” อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าว และว่า
“เนื่องจากเทคโนโลยีตัวนี้ สามารถช่วยการพัฒนา 3 ด้านหลัก คือ 1.เชื่อมโยงการใช้ชีวิตของนิสิต ในทุกมิติ ตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง จนถึงก่อนเข้าเรียน เพราะสามารถตรวจเช็คข้อมูลได้ตลอดเวลา 2.พัฒนาศักยภาพนิสิตและบุคลากร เพื่อให้พร้อมเข้าสู่โลกดิจิทัล และ 3.เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ข้อมูล ซึ่งจะทำให้นิสิตสามารถพัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่และรอบด้านด้วยดิจิทัลเทคโนโลยี”
ศ.ดร.บัณฑิต ย้ำทิ้งท้ายว่า แอพพลิเคชั่นตัวนี้ถือเป็นเฟสแรกของการพัฒนาในครั้งนี้ และจากนี้ไปจุฬาลงกรณ์พร้อมด้วยพันธมิตรจะพัฒนาต่อยอด CU NEX Application และใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีในการพัฒนาแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ของข้อมูลด้านต่างๆ ผ่านเทคโนโลยี Blockchain โดยอาจขยายกลุ่มเป้าหมายไปภาครัฐภายในนิเวศน์ของจุฬาลงกรณ์และประชานทั่วไป
อนึ่ง แอพพลิเคชั่นตัวนี้ นิสิตสามารถดาวน์โหลดได้ทันที เพื่อนำ CU NEX Application ไปใช้ภายในระบบนิเวศน์ของจุฬาลงกรณ์.