เชื่ออีคอมเมิร์ชโต-เติมเต็มโอกาสSMEsไทย
ทุกเสียงฟันธง! อีคอมเมิร์ชไทยโตแน่ แต่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันติดอาวุธทางปัญญาให้ผู้ประกอบการ เชื่อไม่เพียงสร้างโอกาสการค้าให้เอสเอ็มอี แต่ยังทำให้ “คนตัวเล็ก” กว่า 3 ล้านรายได้เข้าสู่การค้ารูปแบบใหม่อย่างทั่วถึง ทั้งตลาดในไทยและต่างประเทศ ผ่านเครือข่ายทูตพาณิชย์ไทย
นายณพพงศ์ ธีระวร ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวระหว่างเสวนา “ทิศทางอีคอมเมิร์ชของประเทศไทย” ในงาน E-Commerce Big Bang จัดโดยกระทรวงพาณิชย์ ว่า ข้อมูลที่สนใจของผู้ประกอบเอสเอ็มอีราว 3.01 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วนของผู้ประกอบการในประเทศสูงถึง 99.7% นั้น มีเพียง 600,000รายที่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท แม้กลุ่มนี้จะมีการจ้างงานมากถึง 11.75 ล้านคน แต่อัตราการเติบโตก็ต่ำเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการขนาดใหญ่ ทั้งนี้หากนำไปเทียบรายได้และสินทรัพย์ที่มีแล้ว จะยิ่งเห็นความแตกต่างอย่างมาก ขณะที่รายใหญ่ซึ่งมีสัดส่วนไม่กี่เปอร์เซ็นต์ กลับถือครองทรัพย์สินถึง 78.7% ขณะที่เอสเอ็มอีมีเพียง 21.3% สิ่งนี้สะท้อนภาพความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่สั่งสมกันมานานระหว่างรายใหญ่กับเอสเอ็มอีเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ดี การพัฒนาไปข้างหน้าของเทคโนโลยีและการเกิดขึ้นของอีคอมเมิร์ช ส่งผลให้ช่องว่างการเข้าถึงโอกาสของ “คนตัวเล็ก” อย่างเอสเอ็มอีมีมากขึ้น ซึ่งสมาพันธ์เอสเอ็มอีมองเห็นโอกาสจากการลงพื้นที่ในระดับอำเภอทั่วประเทศกว่า 870 อำเภอ โดยจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางและกระบอกเสียงเชิงสร้างสรรค์ให้กับเอสเอ็มอี รวมถึงส่งต่อข้อมูลองค์ความรู้ และแนวนโยบายของภาครัฐ เพื่อให้เอสเอ็มอีได้เข้าถึงโอกาสในทางธุรกิจเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ การเกิดขึ้นของเว็บไซต์ Thaitrade.com จึงเป็นประโยชน์และสร้างโอกาสให้กับเอสเอ็มอี
นางอารดา เฟื่องทอง ผอ.สำนักพาณิชย์ดิจิทัล กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า เว็บไซต์Thaitrade.com ถือเป็นมาร์เก็ตเตอร์ที่มีแฟลตฟอร์มระดับผู้นำของไทย ซึ่งจะถูกนำมาใช้เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบระดับต่างๆ ในการทำอีคอมเมิร์ช ด้วยการนำสินค้าไทยออกสู่ตลาดโลกโดยไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งจะสร้างความน่าเชื่อถือทั้งต่อคู่ค้าในต่างประเทศและผู้ประกอบการไทย
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะอาศัยเครือข่ายทูตพาณิชย์ใน 58 ประเทศทั่วโลกทำการประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างการรับรู้ในเว็บไซต์ Thaitrade.com รวมถึงหาลูกค้าให้กับผู้ประกอบการไทย ไม่เพียงแค่นั้น ยังจะประสานกับเว็บไซต์อื่นๆ ทั้งในไทยและในต่างประเทศ โดยเฉพาะเว็บไซต์ชั้นนำของ อย่าง อาลีบาบาอะแมซอน เจดีดอมคอม โคโซโก้ เป็นต้น เพื่อสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบไทย เชื่อว่าจากนี้อีก 3 ปี ผู้ประกอบที่อยู่ในเว็บไซต์ Thaitrade.com เติบเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 100,000 ราย จากเดิมที่มี 250,000 ราย
ด้านนายพรวิช ศิลาอ่อน ผอ.สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการค้ายุคใหม่ กล่าวว่า สถาบันฯได้ออกแบบหลักสูตรเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการทุกกลุ่ม ทั้งในระดับออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งนอกจากองค์ความรู้ที่มีให้กับผู้ประกอบการไทยแล้ว ยังจะสร้างโอกาสและเชื่อมต่อคอนเน็กชั่นในรูปแบบต่างๆแก่ผู้ประกอบการอีกด้วย.