คลังแจงโชคบัตรเดบิตครั้งสุดท้าย
กระทรวงการคลังจะยุติโครงการแจกโชคผู้ใช้บัตรเดบิต หลังจากโครงการนี้ ดำเนินการมาครบ 12 เดือน ตามเป้าหมายที่กำหนด พบว่า พฤติกรรมประชาชนเริ่มเดินหน้าเข้าสู่ยุคสังคมไร้เงินสดมากขึ้น
“วานนี้ (31 พ.ค.) กระทรวงการคลังได้มอบรางวัลแก่ผู้โชคดีจากการใช้บัตรเดบิตและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ครั้งที่ 12 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายหลังจากดำเนินการมาครบ 12 เดือน ในโครงการแจกโชคจากการใช้บัตรเดบิตเดือนละ 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการระบบการชำเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment) ส่งผลให้ประชาชนและร้านค้าทั่วไปมีความนิยมใช้ระบบอิเล็กทรอนิสก์มากขึ้นทั้งบัตรเดบิต พร้อมเพย์ และคิวอาร์โค้ด รวมถึงการชำระเงินผ่านเครื่องรับชำระเงินอัตโนมัติ หรืออีดีซี” นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวและกล่าวว่า
ในช่วง 1 ปีนับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ พบว่า มีการใช้บัตรเดบิตเพิ่มขึ้นเป็น 62.12 ล้านใบ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.2% โดยมียอดธุรกรรม (การใช้จ่ายผ่านบัตร) 80.2 ล้านรายการ เพิ่มขึ้น 38.2% เทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนที่จะเริ่มดำเนินโครงการดังกล่าว โดยมีมูลค่าธุรกรรมรวม 148,975 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.2%
ส่วนความคืบหน้าในการติดตั้งเครื่องอีดีซี ล่าสุดได้ดำเนินการติดตั้งไปแล้ว 200,000 เครื่อง จากจำนวนเป้าหมายที่วางไว้ 500,000 เครื่อง ซึ่งคาดว่า จะติดตั้งได้ทั้งหมดภายในปีนี้ โดยไม่ถือว่า มีความล่าช้าแต่อย่างใด เนื่องจากในช่วงก่อนหน้านี้ ตั้งเป้าหมายติดตั้งเครื่องอีดีซี 200,000 เครื่องแต่เนื่องจากรัฐบาลมีโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่จะใช้จ่ายบัตรผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ จึงได้เพิ่มจำนวนเครื่องอีดีซีเป็น 500,000 เครื่อง ซึ่งในจำนวนนี้ ได้ติดตั้งเครื่องอีดีซีในหน่วยงานภาครัฐไปแล้ว 18,000 เครื่อง
“หลังจากที่รัฐบาลได้สนับสนุนโครงการให้มีการจับรางวัลจากผู้ใช้บัตรเดบิตและร้านค้าที่ให้บริการเครื่องอีดีซีครบ 1 ปี เรียบร้อยแล้ว กระทรวงการคลังจะไม่ดำเนินการโครงการแจกโชคอีกแล้ว เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปในทิศทางที่เป็นสังคมไร้เงินสดมากขึ้นแล้ว” ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวในท้ายที่สุด.