“อาคม” งัดวัคซีนเศรษฐกิจ 3 ระดับ สู้พิษโควิด-19
รมว.คลัง ย้ำอีกครั้ง! สร้างวัคซีนเศรษฐกิจสู้วิกฤตโควิด-19 ครอบคลุม 3 ระดับ “ประเทศ-ธุรกิจ-ประชาชน” ยืนยัน! เศรษฐกิจไม่ดิ่งเหวอย่างที่กล่าวหา ตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวยังแกร่ง
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า นอกจากวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ประเทศไทยยังต้องมีวัคซีนทางเศรษฐกิจ เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันของประเทศให้สามารถเดินต่อไปได้ โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ภูมิคุ้มกันระดับประเทศ ภูมิคุ้มกันภาคธุรกิจ และภูมิคุ้มกันภาคประชาชนและแรงงาน
โดยภูมิคุ้มกันระดับประเทศ คือการดูแลการขยายตัวของจีดีพี ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน, ทุนสำรองระหว่างประเทศต้องมีเพียงพอ ซึ่งขณะนี้ มี 2-3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ รองรับการชำระหนี้ระยะสั้นได้ 3 เท่า และ เงินสำรองภายในประเทศ ซึ่งการเงินการคลังของประเทศมีความมั่นคงและมีเพียงพอ หนี้สาธารณะ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 50% ต่อจีดีพี ซึ่งไม่เกินกรอบที่กำหนดไว้ที่ 60% แม้ต้องใช้เงินจำนวมาเพื่อดูแลโควิด-19
ส่วนภูมิคุ้มกันภาคธุรกิจ ครอบคลุมภาคการผลิต ภาคอุตสาหากรรม ภาคเกษตรกรรม ภาคบริการ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นสิ่งที่รัฐบาลได้ออกมาตรการดูแลอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ภูมิคุ้มกันภาคประชาชนและแรงงาน ซึ่งมีหลายส่วนที่กำลังดำเนินการ ผ่านการเยียวยา กระตุ้นและฟื้นฟู ที่สำคัญต้องสนับสนุนการออมเงินเพื่อใช้ในอนาคต ภาคบังคับและภาคสมัครใจ อาทิ การทำประกันชีวิต เพื่อสร้างภูมิด้านนี้ให้เข้มแข็งต่อไป
“ปีนี้ ต่างจากปีก่อน เพราะไม่มีการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ บทเรียนจากครั้งก่อน ทำให้รัฐบาลสามารถรักษาสมดุล ระหว่างด้านเศรษฐกิจกับการควบคุมแพร่ระบาดโควิด-19 โดยควบคุมหยุดเพื่อในพื้นที่เสี่ยง อาทิ สถานบันเทิง ส่วนการค้ายังดำเนินการได้ เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจไม่หยุดชะงัก รวมทั้งยอดการใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่ง ในช่วงเดือนธันวาคมยังมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าประชาชนยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ การแก้ไขปัญหาจึงทำได้ดีกว่า” รมว.คลัง ย้ำ.