ธอส.ผุดสินเชื่อ 2GEN เด็กกู้ร่วมผู้ใหญ่
ธอส.สุดล้ำ! ผุดสินเชื่อใหม่ “2GEN” ดึงเด็กร่วมกู้กับผู้ใหญ่ ผ่อนยาว 70 ปี “ลดต้นลดดอก” หรือตัดง่ายและปิดกู้ได้ตามสะดวก เผย! เคาะรายละเอียดจริง ในการประชุมบอร์ดใหญ่ 22 ต.ค.นี้ พร้อมเปิดตัวเป็นทางการ ต้นพ.ย.63
“เปลี่ยนผู้เช่า…เป็นเจ้าของบ้าน” แนวคิดสุดล้ำ! ที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) หวังจะช่วยให้คนไทยมีบ้านเป็นของตนเองได้ง่ายและเร็วขึ้น ผ่านโครงการสินเชื่อรูปแบบใหม่ ที่ชื่อ… Two-GEN เปิดโอกาสให้ลูกหนี้เลือกผ่อนชำระได้ 2 generation ยาวนานสูงสุดถึง 70 ปี
แม้จะถูกค่อนแคะ ทำนอง…ทำให้คนไทย “2 รุ่น” จากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก ต้องเป็นหนี้ยาวนานมาราธอน…นิรันดร
กระนั้น นายฉัตรชัย ศิริไล กก.ผจก. ธอส. กลับมองต่างมุม แม้เขาจะยอมรับว่า…ตามทฤษฎีในทางคณิตศาสตร์แล้ว การเป็นหนี้ยาวนาน ย่อมเป็นภาระให้ลูกหนี้ต้องจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยแพงขึ้นจริง
ทว่าเม็ดเงินที่จ่ายคืนกับ ธอส. เบื้องต้นราว 2,500 บาทต่อเดือนนั้น กลับช่วยเพิ่มโอกาสการเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น และไม่เป็นภาระระหว่างเดือนมากนัก
ที่สำคัญ…เมื่อคนรุ่นใหม่เริ่มทำงานและมีรายได้ ขณะที่คนรุ่นเก่ายังคงทำงานและมีรายได้เพิ่มขึ้น ทั้ง 2 คนสามารถจะโปะหรือปิดเงินกู้ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงปีที่ 70 แต่ถึงจะผ่อนจ่ายตามงวดไปเรื่อยๆ ดอกเบี้ย ก็จะลดลงตามเงินต้น
โดยแนวคิดของสินเชื่อ Two-GEN คือ การที่คนรุ่นหนึ่ง…อาจเป็นพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือญาติผู้ใหญ่ ที่มีศักยภาพเพียงพอจะกู้เงินและผ่อนจ่ายรายเดือน เพียงแต่อายุงานและอายุตัวที่เหลือไม่มาก ทำให้ภาระผ่อนจ่ายรายเดือนอาจสูง จนกระทบรายจ่ายอื่นๆ
ดังนั้น หากดึงคนอีกรุ่นหนึ่ง คือ…ลูก หลาน หรือผู้ใต้ปกครอง ที่มีอายุ 18-20 ปีขึ้นไป มาร่วมกู้เงินในโครงการฯ โดยคาดการณ์ว่า คนรุ่นใหม่สามารถจะร่วมผ่อนจ่ายไปกับคนรุ่นก่อนได้….เป็นการซื้ออนาคต!
ทว่า ความเป็นจริงในปัจจุบัน…ที่จับต้องได้ คือ โครงการสินเชื่อแนวคิดใหม่นี้ จะช่วยให้ผู้เช่ากลายเป็นเจ้าของบ้านในทันที!
นี่คือข้อดีและจุดเด่นของโครงการฯ ภายใต้การระดมสมองของบุคลากร ธอส.
นายฉัตรชัย ระบุว่า การประชุมบอร์ด ธอส. ที่มีขึ้นในวันที่ 22 ต.ค.2563 จะนำมาซึ่ง บทสรุป! ทั้งอัตราดอกเบี้ย และฐานอายุของผู้กู้ร่วม ควรจะเป็น 20 หรือสามารถจะปรับลดลงมาอยู่ในระดับ 18 ปีบริบูรณ์
แต่เบื้องต้น ได้วางกรอบวงเงินกู้ต่อรายที่ 1.5 – 1.8 ล้านบาท และธอส.เตรียมวงเงินเบื้องต้นเป็นการนำร่องที่ 10,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากตลาด โดยเฉพาะ กลุ่ม “นิว คัมเมอร์” มีความต้องการสินเชื่อตัวนี้สูง ธอส.ก็พร้อมเพิ่มวงเงินสินเชื่อรวมได้อีก
นั่นความหมายว่า…ผู้ที่จะยื่นขอกู้เงินฯ จะต้องเป็นการซื้อหรือปลูกบ้านใหม่ ไม่เปิดช่องให้กับการรีไฟแนนซ์ ซึ่งเหตุที่ นายฉัตรชัย ให้ไว้คือ…กลุ่มที่มีบ้านอยู่แล้ว ไม่ต้องการบ้านใหม่ หรืออาจจะรีไฟแนนซ์ ก็มีช่องทางเลือกอื่นๆ ให้เลือกมากมาย
ตั้งเป้าเปิดตัวโครงการนี้ให้ได้ทันภายใต้เดือน พ.ย.ที่จะถึงนี้!!!
“แนวคิดนี้จะทำให้จำนวนเงินงวดที่ลูกค้าผ่อนชำระรายเดือนลดลง จึงทำให้กรณีที่มีรายได้สุทธิจำนวนเท่าเดิม แต่เมื่อผ่อนชำระได้นานขึ้น ก็จะมีโอกาสได้รับวงเงินสินเชื่อมากขึ้นเช่นกัน อาทิ กรณีวงเงินกู้ 1 ล้านบาท หากผ่อนชำระ 40 ปี เงินงวดจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท/เดือน แต่หากผ่อนได้นานสูงสุดถึง 70 ปี จำนวนเงินผ่อนชำระ จะอยู่ที่ประมาณ 2,500-3,000 บาท/เดือนเท่านั้น และในอนาคตเมื่อลูกค้าได้มีบ้านเป็นของตนเองและครอบครัวแล้ว หากมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น หรือบุตรที่เป็นผู้กู้ร่วมมีรายได้เข้ามาเพิ่มเติมก็สามารถผ่อนชำระสูงกว่าเงินงวดที่กำหนดได้ ซึ่งจะทำให้สามารถผ่อนชำระได้หมดก่อน 70 ปีได้อย่างแน่นอน” นายฉัตรชัย กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบัน ธอส. ยังอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติมของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เพื่อนำเสนอให้คณะกรรมการธนาคาร รวมถึงกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พิจารณาความเหมาะสม พร้อมยืนยันว่าแนวคิดดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าประชาชนมีบ้านเป็นของตนเองได้มากขึ้นเท่านั้น
โดยลูกค้าที่มีศักยภาพทางรายได้ ยังคงสามารถเลือกจำนวนปีที่ต้องการผ่อนชำระ อาทิ 15 ปี 20 ปี 30 ปี หรือ 40 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับรายได้สุทธิของผู้กู้ หรือราคาที่อยู่อาศัย และวงเงินกู้ที่ต้องการได้ตามปกติต่อไป.