ออมสินดัน นศ.หนุนเศรษฐกิจฐานราก
แบงก์ออมสิน จับมือ 56 สถาบันอุดมศึกษา ผ่านโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น ดันชุมชนกว่า 10,000 คน พัฒนาผลิตภัณฑ์ ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ผ่านช่องทางการตลาดครบวงจร หวังหนุนฐานรากสู่ความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง
นางพัชลีพร วรวิบูลย์สวัสดิ์ รอง ผอ.ธนาคารออมสิน กลุ่มลูกค้าฐานรากและสนับสนุนนโยบายรัฐ และ รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมมอบโล่เกียรติคุณให้แก่ทีมนักศึกษา จากสถาบันอุดมศึกษา 56 แห่ง และกลุ่มองค์กรชุมชน 411 ชุมชนทั่วประเทศ ที่มีผลงานยอดเยี่ยม รางวัล Best of the best จำนวน 6 ทีม 6 ประเภท (กินดี อยู่ดี สวยดี ดูดี รักษ์ดี และคิดดี) และรางวัล The Best อีก 50 ทีม ที่สามารถนำความรู้และวิทยาการสมัยใหม่เข้าไปช่วยเหลือคนในชุมชนให้สามารถพัฒนา ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เกิดความแปลกใหม่
ตลอดจนยกระดับผลิตภัณฑ์หรือบริการให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ตอบสนองต่อความต้องการของตลาด อันจะก่อให้เกิดการสร้างอาชีพและรายได้แก่สมาชิกองค์กรชุมชน ในโอกาสที่ธนาคารออมสินจัดงาน โครงการความร่วมมือ ระหว่างธนาคารออมสิน กับ สถาบันอุดมศึกษา ภายใต้โครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น และโครงการมหาวิทยาลัยประชาชน” ขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมให้แก่ผู้มีรายได้น้อยและขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามนโยบายรัฐบาล
ด้วยการส่งเสริมและพัฒนาระบบเศรษฐกิจระดับชุมชน ให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน ผ่านกลไก 3 สร้าง คือ (1) สร้างความรู้/อาชีพ ให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (2) สร้างตลาด/รายได้ เพื่อพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการให้กับนักศึกษา และ (3) สร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน เพื่อเสริมสร้างพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยมีคณะผู้บริหารธนาคารออมสิน คณาจารย์-นักศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษา 56 แห่ง ผู้แทนองค์กรชุมชน 411 แห่ง ผู้แทนกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย กรมการพัฒนาชุมชน กรมส่งเสริมการเกษตร และกองทุนการออมแห่งชาติ ร่วมงาน ณ โรงแรมปรินซ์พาเลซ มหานาค กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา
รศ.นพ.สรนิต กล่าวหลังเป็นประธานเปิดโครงการฯ ว่า ความร่วมมือระหว่างธนาคารออมสินกับสถาบันอุดมศึกษา ในโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น และโครงการมหาวิทยาลัยประชาชน พร้อมมอบนโยบายขับเคลื่อนการทำงานพลังนักศึกษาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน ภายใต้ “โครงการอาสาประชารัฐ” เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ระหว่างธนาคารออมสินกับสถาบันอุดมศึกษา โดยมีผู้บริหาร คณาจารย์จากสถาบันอุดมศึกษา 56 แห่ง 411 องค์กรชุมชน และหน่วยงานภาคี ได้แก่ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย กรมการพัฒนาชุมชน กรมส่งเสริมการเกษตร และกองทุนการออมแห่งชาติ เข้าร่วมงาน เพื่อให้การขับเคลื่อนโครงการร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล พร้อมถอดบทเรียนการดำเนินงานของปี 62 การนำเสนองานวิจัยเชิงลึก และขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกันในปี 63
ด้านนางพัชลีพร กล่าวว่า การส่งมอบงานกิจกรรมเสริมสร้างและพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น ปี 62 ภายใต้โครงการ “ออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น” ครั้งนี้ เป้าหมายเพื่อส่งเสริม สนับสนุน และเชิญชวนให้นักศึกษาที่มีไอเดียและวิทยาการสมัยใหม่ เข้าไปช่วยคนในชุมชนปรับปรุง พัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เกิดความแปลกใหม่ ทั้งรสชาติ คุณภาพแพ็กเกจให้ทันสมัย เพื่อส่งเสริมศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบอาชีพของกลุ่มองค์กรชุมชน ตลอดจนยกระดับผลิตภัณฑ์หรือบริการให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ตอบสนองต่อความต้องการของตลาด นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้การทำงานร่วมกันให้กับเยาวชน ซึ่งจะก่อให้เกิดสัมพันธภาพที่ดีระหว่างกลุ่มองค์กรชุมชน สถาบันการศึกษา และธนาคารออมสิน
สำหรับการดำเนินงานในปี 62 มีสถาบันอุดมศึกษาเข้าร่วมโครงการ 56 แห่งทั่วประเทศ นักศึกษา 3,920 คน กลุ่มองค์กรชุมชน 411 กลุ่ม มีสมาชิกและผู้รับประโยชน์ 2,800 ครัวเรือน กว่า 10,000 คน ได้พัฒนาศักยภาพด้านการตลาด การผลิต การบัญชี และช่องทางการจัดจำหน่าย จนทำให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักศึกษาเห็นคุณค่าของทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่น สามารถฝึกทักษะการเป็นผู้ประกอบการ และมีโอกาสพัฒนาเป็นอาชีพ เพื่อมีรายได้เลี้ยงตนเองต่อไป
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณแก่นักศึกษาและกลุ่มองค์กรชุมชน ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินโครงการ จึงได้มอบรางวัล Best of the Best ให้กับนักศึกษาที่มีผลงานยอดเยี่ยม จำนวน 6 ทีม แบ่งเป็น 6 ประเภท ได้แก่ ประเภท กินดี จาก วิสาหกิจชุมชนฉัตรหลวง (ข้าวแต๋นแบบแท่ง) ม.ธรรมศาสตร์, อยู่ดี จาก ว.ทวีฟาร์ม (ฟาร์มสเตย์หมูออร์แกนิคหนองโน Agro Life) ม.ขอนแก่น, สวยดี จาก วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรสร้างสรรค์ (เซรั่มเห็ด 3 ชนิด) มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) สวนสุนันทา, ดูดี จาก วิสาหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์ทำมือบ้านจงเจริญ (ผ้าปักมือ Hug Village) มรภ.เชียงราย, รักษ์ดี จาก กลุ่มตีเหล็กบ้านใหม่ (มีดไทยโบราณ) มรภ.บุรีรัมย์ และคิดดี จาก วิสาหกิจชุมชนบ้านคลองไทร (ผักเคล ready to eat) สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์
นอกจากนี้ ยังได้มอบรางวัล The Best ให้แก่ทีมนักศึกษาและกลุ่มองค์กรชุมชนอีกจำนวน 50 ทีมด้วย นอกจากนี้ภายในงานสถาบันอุดมศึกษาได้ร่วมกับองค์กรชุมชน นำผลิตภัณฑ์/บริการ ที่ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาจากโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่นและโครงการมหาวิทยาลัยประชาชน มาจัดแสดงและจำหน่าย พร้อมกับบูธนิทรรศการของธนาคารออมสิน
“ผลสำเร็จของโครงการดังกล่าว สามารถเสริมสร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคงให้แก่กลุ่มองค์กรชุมชน โดยในช่วงระยะเวลา 6 เดือนของการดำเนินโครงการ ชุมชนมีค่าใช้จ่ายลดลง รายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายสินค้าและบริการถึง 300% มีช่องทางการตลาดออนไลน์และออฟไลน์มากขึ้น มีวินัยทางการเงิน อีกทั้งยังได้รู้จักวิธีการจดบันทึกบัญชีรายได้ รายจ่าย อย่างเป็นระบบ และสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินของธนาคารได้อย่างทั่วถึง ซึ่งจะช่วยส่งผลต่อความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน” นางพัชลีพร ย้ำ.