KTAM เปิดขายทริกเกอร์ฟันด์

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จับจังหวะหุ้นดิ่งเปิดขายทริกเกอร์ฟันด์ ตั้งแต่วันนี้ –23พ.ค.เป้าหมาย5%ภายใน6เดือน
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปี ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวขึ้นสูงสุดอยู่ที่ 1,682 จุด และมีการปรับตัวลดลงจากปัจจัยภายนอกประเทศ ที่มีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก จะมีการชะลอตัวลงจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับ1,600 จุด จึงเป็นจังหวะที่ดีสำหรับการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทย ทริกเกอร์ ฟันด์1 (KT-TRIG1) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 เงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท โดยกองทุนมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทน 5% ภายในระยะเวลา 6 เดือน เน้นลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ เงินฝาก ตามที่สำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต.กำหนด โดยผู้จัดการกองทุนจะปรับสัดส่วนการลงทุนได้ในสัดส่วนตั้งแต่ร้อยละ0 ถึงร้อยละ 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เพื่อให้เหมาะสม กับสภาวะการณ์ในแต่ละขณะ
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในปีนี้จากปัจจัยพื้นฐาน ไว้ที่ 1,740 จุด ในปัจจุบันราคาหุ้นปรับตัวลดลงมามากกว่าปัจจัยพื้นฐาน ในขณะที่ เศรษฐกิจในประเทศยังมีเสถียรภาพ โดยเฉพาะด้านต่างประเทศ มีภาระหนี้ต่างประเทศน้อย บัญชีเดินสะพัดเกินดุล เงินทุนสำรองระหว่างประเทศสูง ในขณะที่แนวโน้มทางการเมืองเริ่มมีความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยคาดว่าตลาดหุ้นไทยอาจปรับลดลงได้อีกไม่มาก จึงเห็นว่า ผลกระทบจากปัจจัยภายนอกประเทศ ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน เป็นจังหวะในการเข้าลงทุน และโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ น้อยลงมากจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ทำให้กระแสเงินไหลกลับตลาดเกิดใหม่ รวมถึงประเทศไทย
ส่วนกลยุทธ์การลงทุน กองทุนจะลงทุนในอุตสาหกรรมที่อิงกับปัจจัยภายในประเทศ ( Domestic ) ที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจไทย การฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุน โดยจะเลือกลงทุนรายหลักทรัพย์ ที่ให้ความสำคัญกับระดับราคาหุ้นที่สอดคล้องกับแนวโน้ม ผลประกอบการที่มีการเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และปัจจัยพื้นฐาน รวมถึงหุ้นที่มีการขยับขึ้นของราคาไม่มาก และหุ้นที่มีการฟื้นตัวของผลการดำเนินงาน โดยจะหลีกเลี่ยงหุ้นที่ได้รับผลกระทบด้านลบจากปัจจัยภายนอกประเทศ ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน นอกจากนี้ จะจับจังหวะการลงทุน โดยพิจารณาจากระดับราคาหุ้นที่จะเข้าลงทุนเพื่อมุ่งหวังให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีชี้วัด และเลือกลงทุนในหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีราคาตามปัจจัยพื้นฐานที่เหมาะสม