บล.บัวหลวง ผนึก วีรันดา ดันขยายธุรกิจ
บล.บัวหลวงชูจุดเด่น VRANDA พีอีต่ำ-ธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง
VRANDA ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารชุดพักอาศัยและธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม เผยไตรมาส 1/2562 มีรายได้รวมอยู่ที่ 501 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58 ล้านบาท เป็นไปตามคาดการณ์ของ บล.บัวหลวง ด้านหัวเรือใหญ่ “วีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์” แย้มลูกค้ายังให้การตอบรับที่ดีแถมมีธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มช่วยหนุน วางเป้าปีนี้เปิดสาขาเพิ่มอีก 4 สาขา มุ่งขยายธุรกิจตอบรับความต้องการของลูกค้า ส่วนเงินระดมทุนนำไปขยายธุรกิจให้ครอบคลุมเมืองท่องเที่ยวหลักและชำระเงินกู้ตามแผน
นายวีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA บริษัทประกอบธุรกิจโรงแรม ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารชุดพักอาศัย และ ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม เปิดเผยว่าผลประกอบการในไตรมาส 1/2562 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 501 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58 ล้านบาท เนื่องจาก ณ ปี 2561 โครงการวีรันดา เรสซิเดนซ์ พัทยา ได้โอนกรรมสิทธิ์ของห้องชุดและรับรู้รายได้รวมไปแล้วถึงประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งเหลือโอนและรับรู้รายได้อีกประมาณ 400-500 ล้านบาท โดยที่เหลือส่วนใหญ่จะโอนภายในปี 2562
ส่วนแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในปีนี้กิจการโรงแรมของกลุ่มบริษัทฯ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดเด่นของบรรยากาศและการออกแบบของโรงแรมที่สวยงามในลักษณะการผสมผสาน (Blended Design) พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันมาร่วมเป็นจุดขายสำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มบริษัทฯ ทำให้โครงการ วีรันดา เรสซิเดนซ์ พัทยา ,วีรันดา ไฮ เรสซิเดนซ์ เชียงใหม่ และโครงการล่าสุดที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คือ วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน ได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดย ณ ไตรมาส 1/2562 มียอดจองแล้วถึงประมาณ 80%
นอกจากนี้กลุ่มบริษัทฯ ยังมีรายได้จากกิจการร้านอาหารและเครื่องดื่มจากการเปิดให้บริการรวม จำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย Skoop Beach Cafe สาขาพัทยา สาขาหัวหิน และร้านเครื่องดื่ม KOF สาขาชั้น G ของโรงแรม โซ โซฟิเทล แบงค็อก และสาขาทองหล่อ ขณะเดียวกันในปีนี้บริษัทฯ เตรียมเปิดร้านอาหาร ขนมหวาน และเครื่องดื่ม เพิ่มอีก 4 แห่ง โดยในเดือนมิถุนายนนี้จะเปิดสาขา Skoop and Co. อีก 2 แห่ง ที่โครงการเจ อเวนิว ทองหล่อ และ เดอ มาร์เช่ ถ.นิมมานฯ จ.เชียงใหม่ พร้อมทั้งเปิดร้านชานมไข่มุก The Alley ที่สาขานี้ พร้อมทั้งขยายสาขาร้านเครื่องดื่ม KOF อีก 1 สาขา ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 12 ล้านบาท
ด้าน “บล.บัวหลวง” คาดว่าช่วงครึ่งปีหลัง 2562 อัตราการเข้าพักของโรงแรมในกลุ่มบริษัทฯ จะฟื้นตัวขึ้นจากมาตรการลดหย่อนภาษีกระตุ้นนักท่องเที่ยว (ลดหย่อนภาษี 20,000 บาท สำหรับ 55 หัวเมืองรองและ 15,000 บาทสำหรับหัวเมืองหลัก ตั้งแต่ 30 เมษายน– 30 มิถุนายน) ซึ่งสัดส่วนแขกที่มาเข้าพักของโรงแรมในกลุ่มบริษัทฯนั้นเป็นคนไทยถึงร้อยละ 30 (เป็นสัดส่วนที่มากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นในกลุ่มโรงแรมซึ่ง บล.บัวหลวง ดูแล) โดยจะส่งผลให้รายได้จากธุรกิจโรงแรมในครึ่งปีหลัง 2562 เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากการที่ฐานรายได้ในครึ่งปีหลัง 2561 อยู่ในระดับต่ำ.