ปตท.สผ.ผนึก MSST พัฒนาหุ่นยนต์สำรวจใต้ทะเล
เออาร์วี จับมือ เมอร์เมด มาริไทม์ จัดตั้ง ซีเควสต์ ยกระดับบริการงานวิศวกรรมใต้ทะเลด้วยหุ่นยนต์และเอไอ ให้บริการเชิงพาณิชย์ปี 2564
ดร. ธนา สราญเวทย์พันธุ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ เออาร์วี บริษัทในเครือของ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) กล่าวภายหลังการลงนามร่วมทุนกับ บริษัท เมอร์เมด ซับซี เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด (MSST) จัดตั้ง บริษัท ซีเควสต์ จำกัด พัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ สำหรับให้บริการงานวิศวกรรมใต้ทะเลในเชิงพาณิชย์ แก่บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และบริษัทด้านพลังงานทดแทนที่มีการดำเนินงานในทะเล ทั้งในภูมิภาคเอเชียและในภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก ว่า ขณะนี้ เออาร์วี ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น หุ่นยนต์ใต้น้ำอัตโนมัติไร้สาย หรือ เอ็กซ์พลอเรอร์ (Xplorer) หุ่นยนต์ซ่อมบำรุงท่อใต้น้ำ หรือ นอติลุส (Nautilus)
รวมทั้งเทคโนโลยีทางด้านปัญญาประดิษฐ์ในการวิเคราะห์ผลตรวจสอบ หรือการใช้ Internet of Things (IoT) ในการสื่อสารและส่งผ่านข้อมูล ซึ่งตั้งเป้าที่จะให้บริการในเชิงพาณิชย์ภายในปี พ.ศ 2564 ดังนั้น บริษัท ซีเควสต์ จำกัด ที่จัดตั้งร่วมกันนี้ จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ เออาร์วี และ เมอร์เมดฯ ตลอดจนอุตสาหกรรมการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมจากเทคโนโลยีเหล่านี้ รวมถึงก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่ประเทศไทยด้วย
ด้านนายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) หรือ เมอร์เมด กล่าวว่า ในระยะเริ่มต้น บริษัท ซีเควสต์ จำกัด วางแผนที่จะนำหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ไปให้บริการงานด้าน สำรวจ ตรวจสอบ ติดตั้ง รื้อถอน และซ่อมบำรุงโครงสร้างหรืออุปกรณ์ใต้ทะเล ฯลฯ แก่บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก่อน หลังจากนั้นจะขยายการบริการไปสู่ภูมิภาคตะวันออกกลางและทั่วโลกต่อไป
สำหรับบริษัท ซีเควสต์ จำกัด (ZeaQuest Co.,Ltd) มีทุนจดทะเบียนเริ่มต้นจำนวน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 155 ล้านบาท และมีสัดส่วนการถือหุ้นระหว่าง เมอร์เมด ซับซี เซอร์วิสเซส และ เออาร์วี เท่ากันที่ ร้อยละ 50 โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในงานบริการวิศวกรรมใต้ทะเล ที่ใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ในระดับสากล