EPCO ลุยชิง โซลาร์ลอยน้ำ กฟผ.
EPCO เดินหน้าธุรกิจไฟฟ้าลงทุนเวียดนามเพิ่ม พร้อมลงชิงโครงการโซลาร์ลอยน้ำของ กฟผ. มั่นใจรายได้ปีนี้โต 50 % จากธุรกิจไฟฟ้า และธุรกิจโรงพิมพ์ หลังซื้อกิจการ เนชั่น กรุ๊ป
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EPCO ดำเนินธุรกิจโรงพิมพ์ในลักษณะครบวงจรโดยให้บริการตั้งแต่วางแผนการผลิตจนกระทั่งเข้าเล่มเป็นสิ่งพิมพ์สำเร็จรูปเปิดเผยว่า บริษัทมีแผนการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มเติมในประเทศเวียดนาม ในรูปแบบโรงไฟฟ้าพลังงานลม ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างขอใบอนุญาตก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากรัฐบาลประเทศเวียดนาม โดยมองโอกาสการลงทุนราว 50 เมกะวัตต์ขึ้นไป หรือ เฉลี่ยมูลค่าเมกะวัตต์ละ 40 ล้านบาท โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2-3 เดือนนี้
ปัจจุบันธุรกิจโรงไฟฟ้ามีกำลังการผลิตไฟฟ้า 424 เมกะวัตต์ โดยในเดือนมิถุนายนนี้บริษัทเตรียมเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าโซลาร์ ประเทศเวียดนาม กำลังการผลิต 110 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ บริษัทถือหุ้น 65%, บมจ. คอมมิว นิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น (CSS) ถือหุ้น 25% ส่วนที่เหลื 10% เป็นพันธมิตรในเวียดนาม และ โรงไฟฟ้าโซลาร์ประเทศญี่ปุ่น 21 เมกะวัตต์ ในเดือนตุลาคม 2562 ดังนั้น จะทำให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมปีนี้ อยู่ที่ 555 เมกะวัตต์ ตามแผนที่วางไว้
นอกจากนี้ บริษัทยังมีความสนใจเข้าประมูล โครงการโซลาร์ลอยน้ำในเขื่อนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งคาดว่าหน่วยงานภาครัฐจะออกประกาศร่างขอบเขตของงาน (TOR) ได้เร็วๆ นี้
สำหรับธุรกิจโรงพิมพ์หลังจากที่บริษัทลงทุนในบริษัท ดับบลิวพีเอส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ WPS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เนชั่นมัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG ดำเนินธุรกิจโรงพิมพ์มูลค่าลงทุน 407 ล้านบาท โดยบริษัทเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดที่ NMG ถือใน WPS จำนวน 42.25 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 84.5% เริ่มรับรู้รายได้จาก WPS ในไตรมาส 4/2561 แต่คาดว่าปี 2562 รับรู้รายได้ราว 500 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมธุรกิจโรงพิมพ์ปีนี้ยังทรงตัว โดยจะใช้เงินลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจสิ่งพิมพ์ต่อยอดการทำธุรกิจบรรจุภัณฑ์เพิ่ม ประเภทบรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูกคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างโรงงานในช่วงต้นปีนี้พร้อมเดินเครื่องผลิตเดือนกรกฎาคม 2562 จากนั้นจะเริ่มรับรู้รายได้ทันที ปัจจุบันความต้องการใช้กล่องลูกฟูกมีการเติบโตที่ดี เนื่องจากการเติบโตการขายของในระบบออนไลน์ของคนไทย อาทิ บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD และเตรียมเจรจาพันธมิตรเพิ่มอย่าง Kerry เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ได้เจรจากับพันธมิตร เพื่อจำหน่ายกล่องลูกฟูกให้บางส่วนแล้ว จึงมั่นใจว่าธุรกิจใหม่น่าจะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้น
ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2562 คาดว่าจะยังคงทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง โดยคาดว่ารายได้รวมจะเติบโตขึ้นประมาณ 50% จากปีก่อน เนื่องจากรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงพิมพ์เพิ่มขึ้น หลังจากเข้าลงทุนในบริษัท ดับบลิวพีเอส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ WPS ภายหลังจากซื้อกิจการมาจาก บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG รวมถึงมีรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมีรายได้ปีละ 680 ล้านบาท.