“สนธิรัตน์” ลงพื้นที่ ชี้แจง Blockchain

สนธิรัตน์ ชี้แจง Blockchain ชาวสวนปาล์มกระบี่ ย้ำช่วยบริหารจัดการซื้อขายปาล์มทั้งระบบ ตัดวงจรพ่อค้าคนกลาง สร้างสมดุลการใช้ไบโอดีเซลภาคพลังงาน ลดการลักลอบนำเข้า และลดฝุ่น PM 2.5 ในระยะยาว
เมื่อเร็วๆนี้ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงานได้ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ พบปะกับกลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน และร่วมเสวนาถึงทิศทางใหม่ของการทำสวนปาล์มน้ำมันด้วยการนำระบบบล็อกเชน (Blockchain) มาใช้ดูแลการซื้อขายปาล์มน้ำมันทั้งระบบ เพื่อให้เกษตรกรได้รับราคาผลผลิตที่เป็นธรรม ราคาสอดคล้องกันทั้งระบบ Value Chain โดยรายได้ตกสู่เกษตรกรอย่างแท้จริง
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การนำ Blockchain มาใช้บริหารซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) มาผลิตไบโอดีเซล หรือ B100 เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่สะท้อนราคาผลปาล์มอย่างเป็นธรรม ซึ่งจะมีการเก็บข้อมูลราคาของเกษตรกร ลานเท โรงหีบ โรงผลิต B100 และโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งทำให้โครสร้างราคาสอดคล้องกันทั้งระบบ
ทั้งนี้กระทรวงพลังงานคาดว่าระบบ Blockchain จะช่วยให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มไม่ถูกกดราคารับซื้อ สามารถพัฒนาผลผลิตที่มีคุณภาพยกระดับราคาผลปาล์มน้ำมัน และผลผลิตพืชพลังงาน สร้างเสถียรภาพราคาให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง ช่วยปรับสมดุลน้ำมันปาล์มดิบในประเทศจากการส่งเสริมให้มีการใช้ไบโอดีเซลในภาคพลังงานมากขึ้น เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิงฟอสซิลจากต่างประเทศ ช่วยป้องกันการลักลอบการนำเข้า และยังลดปัญหาสิ่งแวดล้อมด้านมลภาวะทางอากาศจากฝุ่น PM 2.5 ลดการปล่อยก๊าซเรือนจากในภาคคมนาคมขนส่งอีกด้วย
นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ กระทรวงพลังงานโดยกรมธุรกิจพลังงานอยู่ระหว่างทำโครงการนำร่องเพื่อทดสอบถึงความเป็นได้ในการนำระบบ Blockchain มาใช้ ซึ่งระบบนี้มีข้อดีที่ช่วยตัดวงจรพ่อค้าคนกลางออกไป เพราะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ปาล์มน้ำมันถูกกดราคาให้ตกต่ำเรื่อยมา แม้ว่าไทยจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ปลูกปาล์มมากเป็นอันดับ 3 ของโลกก็ตาม จึงอยากให้ข้อมูลและให้ความมั่นใจกับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มว่า นโยบายกระทรวงพลังงานจะเป็นเครื่องมือสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อได้รับราคาผลผลิตที่เป็นธรรม ไม่ถูกกดราคาอีกต่อไปตามนโยบาย พลังงานเพื่อทุกคน พลังงานเพื่อชุมชน ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก