กฟผ.ส่งทีมกู้วิกฤต-เครื่องสูบน้ำ ช่วยผู้ประสบภัยพายุปาบึก
กฟผ. ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ 1,000 ชุด และน้ำดื่ม 6,000 ขวด แก่ผู้ประสบภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราชแล้ว พร้อมส่งทีมกู้วิกฤตระบบสื่อสารและเครื่องสูบน้ำ กว่า 70 ตัว เสริมทีมกู้ภัยเฉพาะกิจ กฟผ.
นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะโฆษก กฟผ. เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) ทำให้เกิดฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้าง ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก กฟผ. ขอส่งความห่วงใยและกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ที่ประสบภัยธรรมชาติในครั้งนี้
ทั้งนี้ กฟผ. ได้เข้าพื้นที่นำถุงยังชีพ 1,000 ชุด และน้ำดื่ม 6,000 ขวด ไปมอบให้กับผู้ประสบภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราชแล้ว พร้อมจัดส่งเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ที่จำเป็น ประกอบด้วย เครื่องดูดโคลน (Screw Pump) จำนวน 1 เครื่อง เครื่องสูบน้ำดีเซล จำนวน 60 ตัว และเครื่องสูบน้ำชนิดจุ่มใต้น้ำ (Submerged Pump) จำนวน 16 ตัว เสริมทีมกู้ภัยเฉพาะกิจ กฟผ. ในพื้นที่ เพื่อสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย นอกจากนี้ ยังได้จัดเตรียมทีมกู้วิกฤตระบบสื่อสาร เข้าประจำการ ณ กฟผ.สำนักงานบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดเหตุขัดข้องกับระบบสื่อสาร กฟผ. ด้วย
ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนรัชชประภา และเขื่อนบางลาง ปัจจุบันปริมาณน้ำยังอยู่ในระดับการควบคุม โดยเขื่อนรัชชประภา มีปริมาณน้ำ คิดเป็นร้อยละ 83.22 ยังสามารถรองรับน้ำได้อีก 945.95 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนบางลาง มีปริมาณน้ำ คิดเป็นร้อยละ 75.63 ยังสามารถรองรับน้ำได้อีก 354.36 ล้านลูกบาศก์เมตร (ข้อมูล ณ วันที่ 5 ม.ค. 62 เวลา 14.00 น.) ปัจจุบันเขื่อนทั้งสองแห่ง ยังคงหยุดเดินเครื่อง เพื่อบรรเทาสถานการณ์ระดับน้ำที่อาจเพิ่มสูงขึ้นบริเวณท้ายเขื่อน.