RATCH จ่อซื้อธุรกิจพลังงานทดแทน 4 ประเทศ
RATCH ตั้งเป้าปี 62 มีกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่อีก 700-750 เมกะวัตต์ คาดสรุปซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานลมออสเตรเลีย 1-2 โครงการในต้นปี พร้อมเดินหน้าเจรจาซื้อกิจการซื้อกิจการอีก 4 ประเทศ
นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยว่า แผนงานปี 62 บริษัทตั้งเป้าจะมีกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่ที่เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เข้ามาอีก 700-750 เมกะวัตต์ (MW) โดยคาดว่าช่วงต้นปี2562 จะสามารถสรุปซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในออสเตรเลียได้อย่างน้อย 1-2 โครงการ กำลังการผลิตรวมกว่า 200 เมกะวัตต์ และเมื่อรวมกำลังกำลังการผลิตไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างพัฒนาและจะเริ่ม COD ในปีหน้า ก็จะทำให้ในปี 2562 มีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ COD ได้รวมทั้งสิ้น 7,550-7,600 เมกะวัตต์ จากสิ้นปีนี้ที่มีอยู่ 6,850 เมกะวัตต์
นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งเน้นการลงทุนด้วยการซื้อกิจการเข้ามาเพิ่มเติม โดยอยู่ระหว่างเจรจาอีกหลายโครงการในประเทศอินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย ทั้งที่เป็นพลังงานทดแทนและฟอสซิล
ขณะเดียวกันตามที่ร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) ฉบับใหม่ปี 2561-2580 ที่มีโอกาสจะเปิดแข่งขันรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชนรายใหญ่ (IPP) ตามแผนที่จะมีโรงไฟฟ้าหลักแข่งขัน รวมประมาณ 8,300 เมกะวัตต์ ตลอดแผน โดยเฉพาะโครงการที่มีโอกาสเปิดแข่งขันก่อนเป็นลำดับแรก ๆ ได้แก่ โรงไฟฟ้าภาคตะวันตก 1,400 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น รองรับการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในปี 66 จำนวน 700 เมกะวัตต์ และรองรับการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในปี 67 จำนวน 700 เมกะวัตต์ นับเป็นโอกาสของบริษัทที่จะเข้าไปแข่งขันด้วยเช่นกัน เพราะมีพื้นที่รองรับเพียงพอ รวมถึงพร้อมจะเข้าแข่งขันในทุกพื้นที่ที่รัฐบาลจะเปิดประมูล
อย่างไรก็ดีบริษัทมีโรงไฟฟ้าที่จะหมดอายุสัญญาจำนวน 2 โครงการ คือ โรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ ขนาด 700 เมกะวัตต์ จะหมดอายุปี 63 และโรงไฟฟ้าราชบุรี 2 โรง ขนาดกำลังการผลิตรวม 3,600 เมกะวัตต์ จะหมดอายุปี 70 ซึ่งทั้ง 2 โครงการตั้งอยู่ใน จ.ราชบุรี
สำหรับในปี 2561 บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ COD แล้วรวมประมาณ 6,850 เมกะวัตต์ หลังได้เข้าซื้อหุ้น 50% ในโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่อินโดนีเซีย 180 เมกะวัตต์ และการซื้อหุ้น 40% โครงการผลิตน้ำประปาแสนดินในลาว กำลังการผลิต 48,000 ลูกบาศเมตร (ลบ.ม.)/วัน คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าเทียบเท่า 114 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ ยังเหลือกำลังการผลิตไฟฟ้าที่มีอยู่ในมืออีก 771.76 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำเซเปียน-เซน้ำน้อย ในลาว ขนาดกำลังการผลิตตามสัดส่วนร่วมทุน 102.50 เมกะวัตต์ , โครงการเบิกไพรโคเจนเนอเรชั่น ขนาดกำลังการผลิตตามสัดส่วนร่วมทุน 34.73 เมกะวัตต์ โดยทั้งสองโครงการคาดว่าจะ COD ปี 2562
ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมนวนครเฟส 2 กำลังการผลิตตามสัดส่วนการร่วมทุน 24 เมกะวัตต์ จะเริ่ม COD ปี 2563.