เปิดประมูล “แหล่งปิโตรเลียม” รอบใหม่ เมษายนนี้
“สนธิรัตน์” ประกาศ เปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียมรอบใหม่ พื้นที่อ่าวไทย เมษายนนี้ เผยที่ผ่านมา แหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณ สร้างรายได้ให้กับประเทศในรูปแบบค่าภาคหลวง กว่า 100,000 ล้านบาท
ภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม การดำเนินงานของกิจการผลิตปิโตรเลียมแหล่งก๊าซธรรมชาติกลุ่มเอราวัณ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ประกาศแผนการเปิดยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ครั้งที่ 23 บริเวณทะเลอ่าวไทย โดยระบุ ภายในเดือนเมษายน 2563 จะสามารถเปิดประมูลได้
นอกจากนั้น ยังบอกอีกว่า แหล่งปิโตรเลียมดังกล่าวมีความสำคัญในฐานะที่เป็นแหล่งปิโตรเลียมแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งได้สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนคนไทยและประเทศชาติมาโดยตลอด ตั้งแต่การสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน สร้างความแข็งแกร่งให้แก่เศรษฐกิจของประเทศ ก่อเกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่อง สร้างงาน สร้างอาชีพให้คนไทย
รวมถึงสร้างรายได้ให้กับประเทศในรูปแบบค่าภาคหลวง มาแล้วกว่า 100,000 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นงบประมาณแผ่นดินในการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน คนไทยทั้งประเทศมาเกือบ 40 ปีแล้ว
อย่างไรก็ดี กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ อยู่ในระหว่างการพิจารณากำหนดพื้นที่แหล่งปิโตรเลียม ระบบการบริหารจัดการ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขสำหรับการเปิดให้สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่ จากนั้นจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี ในการดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ตั้งแต่การเปิดให้เอกชนเข้ามาศึกษาข้อมูลไปจนถึงประกาศผู้ชนะการประมูล โดยคาดว่าจะมีการลงนามกับผู้ชนะการประมูลประมาณต้นปี 2564 และจะก่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนในเบื้องต้นกว่า 1,500 ล้านบาท
รวมถึงการต่อยอดให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมในประเทศเพิ่มขึ้นเป็นหมื่นล้านบาทหากมีการสำรวจพบปิโตรเลียม และประโยชน์ที่ตามมานั้นไม่ใช่แค่ความมั่นคงด้านพลังงาน แต่หมายถึงความเชื่อมั่นของภาคการลงทุน การสร้างรายได้ให้กับประเทศ สร้างงาน สร้างอาชีพที่มั่นคงให้คนไทย ตลอดจนขับเคลื่อนการเจริญเติบโตให้กับธุรกิจต่อเนื่องอื่น ๆ อาทิ ธุรกิจเกี่ยวกับการสร้างแท่นผลิตปิโตรเลียม ร้านอาหาร โรงแรม และภาคขนส่งอีกด้วย
ปัจจุบัน กิจการผลิตปิโตรเลียมจากแหล่งก๊าซธรรมชาติกลุ่มเอราวัณ ซึ่งประกอบด้วย แหล่งเอราวัณ ปลาทอง สตูล และฟูนาน ดำเนินการโดย บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด การผลิตก๊าซธรรมชาติเฉลี่ยของเดือนมกราคม 2563 อยู่ที่ 1,257 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน คอนเดนเสท หรือ ก๊าซธรรมชาติเหลว เฉลี่ยของเดือนมกราคม 2563 อยู่ที่ 44,519 บาร์เรลต่อวัน และน้ำมันดิบ เฉลี่ยของเดือนมกราคม 2563 อยู่ที่ 27,324 บาร์เรลต่อวัน
ทั้งนี้ แหล่งก๊าซธรรมชาติกลุ่มเอราวัณ (แปลงสำรวจหมายเลข 10 11 12 และ 13) จะสิ้นสุดอายุสัมปทานในปี 2565 จากนั้นจะบริหารจัดการภายใต้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต และดำเนินการโดย บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ร่วมกับ บริษัท เอ็มพี จี 2 (ประเทศไทย) จำกัด ที่ชนะการประมูลเมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา.