ควัก 1,000 ลบ.ซื้อน้ำมันปาล์มดิบผลิตไฟฟ้า
กฟผ.ขานรับนโยบาย กระทรวงพลังงาน รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบผลิตไฟฟ้า 1.6 แสนตัน คาดงบประมาณ 1,000 ล้าน ช่วยดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบล้นตลาด
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2561 ที่ผ่านมา มีมติเพิ่มสัดส่วนผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจาก 6.6% เป็น 6.9% เพื่อช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ได้เพิ่มขึ้นอีก 80,000 ตันต่อปี โดยขั้นต้นจะบังคับใช้มาตรการเพิ่มสัดส่วนเป็น 6.8% ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.2561 เป็นต้นไป ซึ่งผู้ผลิตไบโอดีเซลและผู้ค้าน้ำมันจะร่วมกันซื้อน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้น 15,000 ตัน
นอกจากนี้ กรมธุรกิจพลังงานได้รายงานให้ กบง. รับทราบความร่วมมือจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ทดลองใช้น้ำมันดีเซล B20 ให้แล้วเสร็จในระยะเวลา 1 เดือน ตั้งเป้าหมายใช้น้ำมันดีเซล B20 ในปริมาณ 7 ล้านลิตรต่อดือน ส่งผลให้ประมาณการใช้น้ำมันดีเซล B20 ในเดือนธ.ค.จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 20 ล้านลิตรต่อเดือน จากเป้าหมาย 15 ล้านลิตรต่อวัน
ทั้งนี้ ตามแผนดูดซับการผลิตน้ำมันปาล์มดิบในประเทศดังกล่าว จะสามารถใช้น้ำมันปาล์มดิบในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วได้ 1.3 ล้านตันต่อปี และในน้ำมันดีเซล B20 เพิ่มขึ้นอีก 6 แสนตันต่อปี รวมเป็น 1.9 ล้านตันต่อปี จากปริมาณการผลิตน้ำมันปาล์มดิบในประเทศประมาณ 2.5 ล้านตันต่อปี
นอกจากนี้ กระทรวงยังมีมาตรการเร่งด่วน ในการนำน้ำมันปาล์มดิบมาใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าแทนก๊าซธรรมชาติ ในโรงไฟฟ้าโรงไฟฟ้าบางปะกงและราชบุรี ซึ่งขณะนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงเครื่องจักร ซึ่งคาดว่ามาตการดังกล่าวจะสามารถ ดูดซับน้ำมันปาล์มดิบได้ประมาณ 1.6 แสนตันใน 3 เดือน อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากงบกลาง 500 ล้านบาท และ จากกฟผ.อีก 500 ล้านบาท จึงยืนยันว่าไม่กระทบต่ออัตราค่าไฟฟ้าของประชาชนที่ปัจจุบันคิดในอัตรา 3.60 บาทต่อหน่วยอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ามาตรการต่างๆ จะช่วยดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบที่อยู่ในสต๊อก 3.7 แสนตัน ให้ลดลงอยู่ในระดับที่เหมาะสม 2.5 แสนตันได้ในระยะเวลาอันสั้น และสามารถสร้างเสถียรภาพราคาปาล์มสดให้อยู่ที่ระดับ 3.50 บาทต่อกิโลกรัม และในอนาคตประเมินว่าปริมาณผลผลิตน้ำมันปาล์มดิบจะอยู่ในระดับที่เพียงพอและสมดุลกับความต้องการใช้ในประเทศ