“ACE” โชว์ผลประกอบการปี 62 กำไรโต 49.2%
ACE โชว์ผลประกอบการปี 62 กำไรสุทธิเติบโต 49.2% เป็น 815 ล้านบาท ย้ำพร้อมร่วมประมูลโรงไฟฟ้าสะอาดกว่า 1,100 เมกะวัตต์
นางสาวจิรฐา ทรงเมตตา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE เผยว่า ปี 2562 บริษัท มีรายได้รวม 4,951 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% จากรายได้รวม 4,833 ล้านบาทในงวดปี 2561 โดย มี EBITDA 1,854 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.9% จาก EBITDA 1,586 ล้านบาท ในปี 2561 และมีกำไรสุทธิ 816 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.2% จากกำไรสุทธิ 547 ล้านบาท ในปี 2561 ทำให้อัตรากำไรสุทธิของ ACE ในปี 2562 สูงถึง 16.4% โดยในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ACE มีผลกำไรที่ดี จากการลดค่าใช้จ่ายในการดูแลซ่อมบำรุง และลดค่าใช้จ่ายวัตถุดิบได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งโรงไฟฟ้า MSW ดำเนินการได้เต็มไตรมาส หลังจากมีปิดซ่อมบำรุง 10 วันในไตรมาส 3
และปีนี้ บริษัทฯ มีแผนงานที่จะขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเตรียมเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนตามนโยบายสำคัญของภาครัฐ 2 โครงการ คือ โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์โดยเฉพาะโครงการ Quick – Win ซึ่งเป็นเฟสแรกของโครงการที่คาดว่าจะเกิดขึ้นก่อน และสามารถรับรู้รายได้ได้อย่างรวดเร็ว และโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ รวมแล้ว 1,100 เมกะวัตต์
“บริษัทฯ มีความพร้อมทุกด้าน ทั้งประสบการการณ์พัฒนา และบริหารโรงไฟฟ้ากว่า 212 เมกะวัตต์ ความเชี่ยวชาญด้านการวิจัย พัฒนา (R&D) เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้า ด้วยวัสดุการเกษตร พืชพลังงานและขยะอินทรีย์ / ขยะชุมชน ความพร้อมทางการเงิน ผู้บริหาร – วิศวกรที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญจึงมั่นใจว่าบริษัทฯ มีโอกาสที่จะชนะการประมูล และสร้างการเติบโต ให้ธุรกิจอย่างมั่นคง ส่วนโครงการโรงไฟฟ้า SPP Hybridจำนวน 4 แห่งกำลังการผลิตติดตั้ง 93 เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่ระหว่างการขอขยายเวลาการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า คาดว่าจะได้รับการอนุมัติ ภายในไตรมาส 1 นี้”นางสาวจิรฐา กล่าว
นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE กล่าวว่า ปัจจุบัน ACE มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 212.18 เมกะวัตต์ และมีเป้าหมายระยะยาว ที่จะเพิ่มกำลังการผลิต รวมมากกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2567
ล่าสุดบริษัทฯ สามารถลดค่าใช้จ่าย ทางการเงิน กว่า 200 ล้านบาทต่อปี โดยการชำระคืนหุ้นกู้ก่อนกำหนดจำนวน 1,450 ล้านบาท และสามารถลดดอกเบี้ยระยะยาวกว่า 1.5% ทำให้บริษัทฯ มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยล่าสุดบริษัทฯ มีอัตราส่วนทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือมีอัตรากำไร ขั้นต้น 32.8% และอัตรากำไรสุทธิ 16.4% และมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (IBD/E) เพียง 0.28 ทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการลงทุนขยายกิจการเพิ่มเติมได้อย่างมาก