“ราช กรุ๊ป” เตรียมงบ 20,000 ลบ.ลงทุน ปี 63
ราช กรุ๊ป เตรียมเงิน 20,000 ล้านบาท ร่วมลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศและต่างประเทศ พร้อมศึกษาการลงทุนธุรกิจ New S-Curve และ ระบบสาธารณูปโภคของภาครัฐ
นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้จัดสรรเงินลงทุนประมาณ 20,000 ล้านบาทสำหรับสานต่อโครงการที่ลงทุนไว้แล้วและการซื้อกิจการเพิ่มในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปการเจรจาลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศและต่างประเทศได้ประมาณ 5 โครงการ ประกอบด้วย โครงการในประเทศ ได้แก่ โครงการส่วนขยายของโรงไฟฟ้าราช โคเจนเนอเรชั่น โครงการโรงไฟฟ้าประเภท SPP และโครงการโรงไฟฟ้า Independent Power Supply
โครงการในต่างประเทศ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ และพลังงานทดแทน โดยประเทศเป้าหมายหลัก ได้แก่ เวียดนาม สปป. ลาว อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย ส่วนโครงการระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานจะเน้นการลงทุนในประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะโครงการประเภท PPP ของภาครัฐ และธุรกิจ New S-Curve ที่มุ่งเน้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีๆใหม่ รวมทั้ง Internet of Things ในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะและระบบส่งไฟฟ้าอัจฉริยะ ส่วนการร่วมลงทุนในการดำเนินงานและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance: O&M) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน – นครราชสีมา (M6) และสายบางใหญ่ – กาญจนบุรี (M81) ในรูปแบบ PPP Gross Cost ระยะเวลา 30 ปี ซึ่งบริษัทฯ เข้าร่วมประมูลในนามกิจการร่วมค้า BGSR คาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ในกลางปีนี้
สำหรับการผลการดำเนินงานในปี 2562 บริษัทฯ รับรู้รายได้รวม จำนวน 43,220.07 ล้านบาท มาจากรายได้หลัก 3 ส่วนสำคัญ คือ รายได้จากการขายและบริการและรายได้ตามสัญญาเช่าการเงินของโรงไฟฟ้าที่บริษัทฯ ควบคุมจำนวน 38,364.34 ล้านบาท รายได้จากส่วนแบ่งจากส่วนแบ่งกำไรของกิจการร่วมทุน จำนวน 3,968.38 ล้านบาท และรายได้จากดอกเบี้ยและอื่นๆ จำนวน 887.35 ล้านบาท ฐานะการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 มีสินทรัพย์รวมจำนวน 100,229.43 ล้านบาท หนี้สินจำนวน 40,815.50 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 59,413.93 ล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 2 /2563 เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 มีมติจ่ายเงินปันผลปี 2562 หุ้นละ 2.40 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 3,480 ล้านบาท โดยจะนำเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ในวันที่ 9 เมษายน 2563 ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2562 บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2562 (งวดเดือนมกราคม – มิถุนายน 2562) แล้ว.