“ACE” พร้อมประมูลโรงไฟฟ้าชุมชน-ขยะ 1,100 MW
ACE เผย พร้อมเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์ และ โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ รวม 1,100 เมกะวัตต์
นางสาวจิรฐา ทรงเมตตา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE เผยแผนงานในปี 2020 ว่า บริษัทฯมีแผนขยายธุรกิจ และเตรียมเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงาน ทดแทนขนาดใหญ่ของภาครัฐ 2 โครงการ คือ โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์ โดยเฉพาะโครงการ Quick-Win ซึ่งเป็นเฟสแรกของโครงการ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นก่อนและสามารถรับรู้รายได้ได้อย่างรวดเร็ว และ โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ รวมแล้ว 1,100 เมกะวัตต์
ทั้งนี้บริษัทฯมีความพร้อม ทุกด้าน ทั้งประสบการการพัฒนาและบริหารโรงไฟฟ้ากว่า 212 เมะวัตต์ ความเชี่ยวชาญด้านการวิจัย พัฒนา (R&D) เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้า ด้วยวัสดุการเกษตร พืชพลังงานและขยะอินทรีย์/ขยะชุมชน ความพร้อมทางการเงิน ผู้บริหาร-วิศวกรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญจึงมั่นใจว่า บริษัทฯมีโอกาสที่จะชนะการประมูลและสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างมั่นคง ส่วนโครงการโรงไฟฟ้า SPP Hybrid จำนวน 4 แห่งกำลังการผลิตติดตั้ง 93 เมกะวัตต์ซึ่งอยู่ระหว่างการขอขยายเวลา การลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า คาดว่าจะได้รับการอนุมัติภายในไตรมาส 1 นี้
ขณะที่นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) (ACE) กล่าวเสริมว่า ACE มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว กำลังการผลิต ติดตั้งรวม 212.18 เมกะวัตต์ และมีแผนงานขยายกำลังการผลิตติดตั้งรวมเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1 เท่าตัวโดยจะมาจากโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา โครงการที่อยู่ระหว่างรอการพัฒนาและ โครงการในอนาคต ทั้งโรงไฟฟ้าชุมชนและโรงไฟฟ้าขยะ เพื่อบรรลุเป้าหมายระยะยาวที่จะเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งรวมเป็นมากกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2567 อันจะส่งผลให้ ACE เติบโตอย่างก้าวกระโดดและต่อเนื่องในช่วง 5 ปีนี้
ล่าสุด บริษัทฯประสบความสำเร็จในการลดค่าใช้จ่ายทางการเงินกว่า 200 ล้านบาทต่อปี โดยการชำระคืนหุ้นกู้ก่อนกำหนดจำนวน 1,450 ล้านบาท และยังสามารถลดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวในอัตรากว่า 1.5% กับสถาบันการเงินชั้นนำ ซึ่งจะมีผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทฯในปีนี้และปีต่อไป และทำให้บริษัทฯมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยล่าสุดบริษัทฯมีอัตราส่วน ทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือ มีอัตรากำไรขั้นต้น 32.4% และอัตรากำไรสุทธิ 17.6% และ มีอัตราส่วน หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (IBD/E) ต่ำ ประมาณ 0.50 เท่า ทำให้บริษัทฯมีศักยภาพในการลงทุน ขยายกิจการเพิ่มเติมได้อย่างมาก
อย่างไรก็ดี ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ACE มีรายได้รวม 3,399 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.2% จากรายได้รวม 3,261 ล้านบาทจากช่วง 9 เดือนแรกปี 2561 และมีกำไรสุทธิ 570 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากกำไรสุทธิ 429 ล้านบาท จากช่วง 9 เดือนแรกปี 2561.