เดินหน้า LNG เสรี กฟผ.Shipper รายใหม่
กพช.เห็นชอบให้ กฟผ. ทำหน้าที่เป็น Shipper รายใหม่ นำเข้าแบบตลาดจรไม่เกิน 200,000 ตัน เดินหน้า LNG เสรี
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน นอกจากเห็นชอบหลักเกณฑ์โรงไฟฟ้าชุมชน แล้ว ยังเห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหาในการดำเนินการตามนโยบายพลังงาน 3 เรื่อง ได้แก่
1.การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) ชีวมวล โดยให้ กกพ. ร่วมกับการไฟฟ้าคู่สัญญาดำเนินการเพื่อให้สามารถปรับรูปแบบการรับซื้อไฟฟ้าของ SPP ชีวมวล ไปเป็น FiT ได้ โดยมีการคำนวณระยะเวลาการปรับลด-เพิ่มอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของ SPP ชีวมวล ให้สอดคล้องกับวันที่เริ่มใช้อัตรา FiT
ตามข้อเสนอของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
2.การกำกับอัตราค่าไฟฟ้า ปี 2561–2563 โดยระหว่างการปรับปรุงนโยบายการกำหนดโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าฉบับใหม่ พ.ศ. 2564–2568 ให้ กกพ. ใช้หลักเกณฑ์ตามนโยบายการกำหนดโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2554–2558 ไปพลางก่อน
3.การส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติระยะที่ 1 โดยได้รับทราบการดำเนินการเตรียมความพร้อม Shipper รายใหม่ ที่มีความต่างไปจากที่ กพช. ได้มีมติไว้เมื่อ 31 ก.ค. 60 ในส่วนที่จะให้ กฟผ. เป็น Shipper รายใหม่ นำเข้า LNG ไม่เกิน 1.5 ล้านตันต่อปี ซึ่งจากสถานการณ์ LNG ได้เปลี่ยนแปลงไป โดยการจัดหา LNG ในประเทศไม่ได้ลดลง ปริมาณความต้องการใช้ LNG ก็ไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นตามที่ได้ประมาณการไว้ มีความเสี่ยงที่การนำเข้า LNG ของ กฟผ. 1.5 ล้านตันต่อปี อาจเกิดภาระ Take or Pay และอาจส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าสูงขึ้นประมาณ
2 สตางค์/หน่วย ขณะที่ราคา LNG มีแนวโน้มจะลดลง LNG Spot ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4 USD/MMBTU
กพช. จึงให้ยกเลิกมติ กพช. เมื่อ 31 ก.ค. 60 ที่ในส่วนที่จะให้ กฟผ. เป็น Shipper รายใหม่ นำเข้า LNG ไม่เกิน 1.5 ล้านตันต่อปี และเห็นชอบให้ กฟผ. เตรียมความพร้อมทำหน้าที่เป็น Shipper รายใหม่
โดยสามารถนำเข้า LNG ในรูปแบบ Spot ไม่เกิน 200,000 ตัน ตามมติ กบง. เมื่อ 21 ต.ค. 62 พร้อมทั้งเห็นชอบโครงสร้างราคา LNG แบบ Spot ของ กฟผ. โดยล๊อตแรกเดือนธันวาคม 2562 และล๊อตสองเดือนเมษายน 2563 เพื่อใช้กับโรงไฟฟ้าวังน้อยชุดที่ 4 โรงไฟฟ้าบางปะกง ชุดที่ 5 และโรงไฟฟ้าพระนครใต้ทดแทนระยะที่ 1
นอกจากนั้น กพช. ได้ให้ กกพ. ศึกษาอัตราค่าไฟฟ้าและการจัดการระบบจำหน่ายไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้าของยานยนต์ไฟฟ้า และยานยนต์ไฟฟ้าระบบขนส่งสาธารณะ โดยคำนึงถึงต้นทุนในการจัดหาไฟฟ้าที่เหมาะสมและเป็นธรรม เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้ไฟฟ้าอย่างคุ้มค่ามีประสิทธิภาพ และได้เห็นชอบการแก้ไขสัญญาเพิ่มเติม Energy Purchase and Wheeling Agreement (EPWA) สำหรับโครงการซื้อขายไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ไปยังมาเลเซียผ่านระบบส่งไฟฟ้าของไทย ระยะที่ 2 (Lao PDR-Thailand-Malaysia Power Integration Project) Phase 2 หรือ LTM-PIP ระยะ 2 พร้อมทั้งมอบหมายให้ กฟผ. สามารถลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฯ ได้ทันที เพื่อให้สัญญา EPWA มีความต่อเนื่อง และมอบหมายให้กระทรวงการคลังพิจารณาในประเด็นการขอยกเว้นภาษีศุลกากรและภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับโครงการดังกล่าว