น้ำมันดิบลด 30 เซนต์ คาดปี 63 อยู่ที่ 55-65 USD
ราคาน้ำมัน WTI ปิดตลาดลดลง 30 เซนต์ หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น ด้าน กลุ่ม ปตท. คาดราคาน้ำมันดิบปี 2563 อยู่ที่ 55 – 65 เหรียญต่อบาร์เรล แนะจับตาปัจจัยผันผวน สงครามการค้า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นโยบายกลุ่มโอเปก
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นประธานเปิดงานสัมมนา 2019 The Annual Petroleum Outlook Forum ภายใต้หัวข้อ “Sustainable Energy…Shaping A Better Future อนาคตพลังงาน สานพลังเพื่อความยั่งยืน” ซึ่งทีมนักวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันของ กลุ่ม ปตท. หรือ PRISM Expert ร่วมกับ กลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) จัดขึ้น เพื่อนำเสนอทิศทางและแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลก รวมถึงความท้าทายของพลังงานในอนาคตที่ต้องเผชิญ และแนวทางการรองรับเพื่อมุ่งสู่พลังงานที่ยั่งยืน
ทั้งนี้ นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม เปิดเผยทิศทางและแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกปี 2563 ว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 3.4 ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันดิบขยายตัวเพิ่มขึ้นราว 1.0 – 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน และความต้องการออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรอาจส่งผลกดดันการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมัน ขณะที่อุปทานน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากการเพิ่มกำลังการผลิตของประเทศนอกกลุ่มโอเปก เช่น สหรัฐอเมริกา ในขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันที่เติบโตช้าลง
ทำให้กลุ่ม OPEC ยังคงต้องใช้นโยบายควบคุมการผลิตเพื่อรักษาสมดุลของตลาด ทีม PRISM Expert จึงคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2563 จะอยู่ในช่วง 55 – 65 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยระยะยาวที่อาจส่งผลกระทบต่อสถานการณ์น้ำมันที่ต้องติดตาม อาทิ นโยบายพลังงานสีเขียว และการพัฒนาของนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อมุ่งสู่พลังงานที่ยั่งยืนอาจทำให้ความต้องการใช้พลังงานเปลี่ยนไป
ล่าสุด ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก เมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.62) ปรับลดลง โดย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือน ม.ค. ลดลง 30 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 58.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบ เดือน ม.ค. ลดลง 21 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 64.06 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น1.6 ล้านบาร์เรล เหนือความคาดหมายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่การผลิตน้ำมันมีแนวโน้มพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ 12.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน.