ปรับโครงสร้างองค์กร กฟผ.ไม่รับ พนง.เพิ่ม 5 ปี
บอร์ด กฟผ. เตรียมตั้งคณะทำงาน ปรับโครงสร้างองค์กร กฟผ.รับกับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี ไม่รับ พนักงานอีก 4-5 ปีข้างหน้า
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (บอร์ด กฟผ.) เปิดเผย ว่า ในเดือน พ.ย.นี้ บอร์ด กฟผ.จะตั้งคณะทำงานร่วมกับผู้บริหารของ กฟผ. และตัวแทนจากสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กฟผ. (สร.กฟผ.) เพื่อปรับโครงสร้างองค์กร กฟผ.ให้รองรับกับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่เป็นระบบไฟฟ้าดิจิทัล จากนั้นจะเปิดให้มีการ ประชุมเชิงปฏิบัติการในเดือน ธ.ค.โดยให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในการปรับองค์กร และการทำงานให้มากขึ้น เพื่อให้องค์กรก้าวสู่ไฟฟ้าดิจิทัล
สำหรับการจัดตั้งบริษัทใหม่เพื่อรองรับธุรกิจซื้อขายไฟฟ้าต่างประเทศ (เทรดดิ้ง) บอร์ด กฟผ.ได้หารือเบื้องต้นแล้ว แต่ยังต้องหารือในรายละเอียดถึงการจัดตั้งว่าจะเป็นลักษณะของหน่วยธุรกิจ (BU) หรือในรูปแบบบริษัท รวมถึงการนำเทคโนโลยี ระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI มาบริหาร Big Data เช่น ระบบส่งอัจฉริยะ(สมาร์ทกริด)เพื่อลดการสูญเสียในระบบส่ง รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้านพลังงานทดแทน เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้จะมีส่วนสำคัญต่อการรักษาระดับสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าและรายได้ของ กฟผ.ในทิศทางที่เพิ่มขึ้น
ด้าน นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร รองผู้ว่าการธุรกิจเกี่ยวเนื่อง กฟผ. กล่าวว่า กฟผ.อยู่ระหว่างการหารายได้เพิ่มขึ้นโดยให้บริการบริหารจัดการและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า (O&M) โดยเฉพาะโรงไฟฟ้ากังหันลมและโรงไฟฟ้าพลังน้ำในประเทศลาว เนื่องจากมีโรงไฟฟ้าพลังงานลมเกิดขึ้นในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น รวมถึงการจัดตั้งบริษัทด้านนวัตกรรมไฟฟ้าเพื่อดำเนินการรูปแบบผู้ประกอบการใหม่หรือสตาร์ทอัป โดยอาศัยงานวิจัยและพัฒนาของ กฟผ.ที่มีจำนวนมากในปัจจุบันและยังมองหาสตาร์ทอัปด้าน ไฟฟ้าอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อก้าวสู่การผลิตเชิงพาณิชย์
ปัจจุบัน กฟผ.มีพนักงานอยู่ประมาณ 20,000 คน จะมีผู้เกษียณอายุในปีนี้และปีหน้าประมาณ 1,200 คน ซึ่งยังไม่มีนโยบายรับเพิ่มในอีก 4-5 ปีข้างหน้า กฟผ.จะมีพนักงานเหลือ 15,000 คน ซึ่งจะมีขนาดที่เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้น.