“พีระพันธุ์” เคาะค่าไฟฟ้า 4.18 บาทต่อหน่วย
เคาะแล้ว ค่าไฟ ม.ค. – เม.ย. 67 จ่ายเพียง 4.18 บาท และ 3.99 บาทสำหรับกลุ่มใช้ไฟน้อย พร้อมเตรียมปรับโครงสร้างราคาพลังงานทุกชนิดในปีนี้
พีระพันธุ์ ผลักดันจนวินาทีสุดท้าย ให้ประชาชนจ่ายค่าไฟให้ถูกสุดเท่าที่จะทำได้ บ้านใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วย จ่ายราคาเดิมที่ 3.99 บาทต่อหน่วย ส่วนบ้านที่ใช้ไฟเกิน 300 หน่วย จ่ายเพียง 4.18 บาทต่อหน่วย จากเดิมที่ กกพ. เสนอ 4.68 บาท ลั่น ปีหน้าพร้อม รื้อ ลด ปลด สร้าง ราคาพลังงานทุกชนิด พร้อมแก้กฎหมายกฎระเบียบที่เป็นปัจจัยทำให้ราคาพลังงานสูง
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานเข้าใจความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน จึงพยายามหามาตรการต่างๆ ในการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ซึ่งในส่วนของค่าไฟฟ้า จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ บ้านที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน จะจ่ายค่าไฟฟ้าในอัตราเดิมคือ 3.99 บาทต่อหน่วย ส่วนบ้านที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 300 หน่วยต่อเดือน จากเดิมที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานได้ประกาศไว้ที่ 4.68 บาทต่อหน่วย
กระทรวงพลังงานได้พยายามหาทุกช่องทาง ทุกมาตรการ เพื่อให้ค่าไฟฟ้าสามารถลดลงกว่านี้ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนสามารถลดค่าไฟฟ้าเหลือเพียง 4.18 บาทต่อหน่วย หรือลดลงอีก 50 สตางค์ต่อหน่วยจากที่ กกพ. ประกาศ ซึ่งต้องยอมรับว่า กระทรวงพลังงานได้ดำเนินทุกมาตรการที่สามารถดำเนินการได้ในระยะเวลาที่จำกัด แต่เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิง โดยเฉพาะค่าก๊าซธรรมชาตินำเข้าหรือ LNG แม้จะเริ่มมีราคาลดลงแต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับสูง แต่คาดว่าค่าไฟฟ้าในงวดหน้า (พฤษภาคม – สิงหาคม) มีแนวโน้มไปในทางที่ดี เนื่องจากก๊าซธรรมชาติจากแหล่งในอ่าวไทยจะสามารถผลิตได้ตามแผนที่วางไว้ที่ 800 ล้านลูกบาศ์กฟุตต่อวัน กอปรกับการปรับโครงสร้างราคาที่กำลังดำเนินการอยู่ ก็คาดว่าจะทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงจากราคาปัจจุบันได้อีก
“ผมและกระทรวงพลังงานและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความห่วงใยในภาระค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในส่วนของค่าไฟฟ้างวดเดือนมกราคม – เมษายน 2567 ซึ่งจากเดิมที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานคาดว่าจะต้องประกาศที่ราคา 4.68 บาทต่อหน่วย ทางผมได้สั่งการ ให้แต่ละหน่วยงานหามาตรการต่างๆ เพื่อให้สามารถลดภาระค่าครองชีพของประชาชนได้มากที่สุด
ตัวอย่างที่ดำเนินการแล้ว เช่น การให้โรงแยกก๊าซธรรมชาติมาใช้ราคา Pool Gas (ราคาเฉลี่ยรวมก๊าซธรรมชาติจากทุกแหล่ง) ก็เป็นส่วนหนี่งที่ทำให้ราคาค่าไฟลดลงมาได้ และที่สำคัญคือเป็นการลดแบบถาวร
นอกจากนี้ ก็ได้ความร่วมมือจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในการขยายหนี้ออกไปอีก 1 งวด และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในการกำหนดราคาขายก๊าซธรรมชาติ และในอนาคตจะมีการรื้อโครงสร้างราคาค่าไฟฟ้า โดยพยายามหามาตรการต่างๆ เช่น การหาแหล่งเชื้อเพลิงต้นทุนต่ำ การรื้อสัญญาโรงไฟฟ้าที่มีข้อผูกพันในระยะยาว การเข้าไปดูแลการนำเข้า Spot LNG
ซึ่งทั้งหมดนี้ หากดำเนินการแล้วเสร็จ ก็จะสามารถทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงได้อีก และขอยืนยันว่า ในปีนี้ ผมจะดำเนินนโยบายที่ได้นำเสนอไว้คือ รื้อ ลด ปลด สร้าง จะแก้กฎหมายกฎระเบียบ หรือการเขียนกฎหมายขึ้นมาใหม่ เพื่อให้โครงสร้างราคาพลังงานทุกชนิด ไม่ใช่แค่เฉพาะไฟฟ้า ให้มีความเป็นธรรม ประชาชนต้องไม่ได้รับความเดือดร้อนจากราคาพลังงาน และจะต้องมีความยั่งยืนอีกด้วย” นายพีระพันธุ์ กล่าว