ปตท.กวาด7รางวัลรัฐวิสาหกิจยอดเยี่ยมตลอดกาล
ด้วยการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ยึดหลักธรรมาธิบาล เพิ่มขีดความสามารถของประเทศและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน สังคม ด้วยนวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์ พร้อมมุ่งมั่นดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น (SOE Award) ประจำปี 2564 แก่ ศ.ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการ พร้อมด้วย นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ และผู้บริหารของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) โดยในปีนี้ ปตท. ได้รับทั้งสิ้น 7 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลรัฐวิสาหกิจยอดเยี่ยม ประจำปี 2564 รางวัลคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจดีเด่น (ประเภทเกียรติยศ) รางวัลการบริหารจัดการองค์กรดีเด่น รางวัลการเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใสดีเด่น รางวัลการดำเนินงานเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น รางวัลความคิดสร้างสรรค์ดีเด่น และรางวัลนวัตกรรมดีเด่น
นายอรรถพล เปิดเผยว่า ในปี 2564 ปตท. ได้ปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์ใหม่ที่จะ “ขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคต” หรือ “Powering Life with Future Energy and Beyond” เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนไป โดยยังคงรักษาพันธกิจที่จะ “ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานและปิโตรเคมีอย่างครบวงจรในฐานะเป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติ ควบคู่กับการดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างสมดุล” ซึ่งการดำเนินงานที่มุ่งมั่นของ ปตท. เพื่อตอบสนองวิสัยทัศน์และพันธกิจขององค์กร ส่งผลให้ ปตท. ได้รับรางวัล “รัฐวิสาหกิจดีเด่น” อย่างต่อเนื่อง ซึ่งรางวัลนี้ถือเป็นรางวัลอันมีเกียรติและทรงคุณค่าแห่งปี ซึ่งมอบให้แก่องค์กรของรัฐที่มีความโดดเด่นในด้านต่าง ๆ และร่วมขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
รางวัลที่ ปตท. ได้รับในครั้งนี้ประกอบด้วย รางวัลรัฐวิสาหกิจยอดเยี่ยม มอบให้รัฐวิสาหกิจที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นในทุกด้าน เป็นแรงขับเคลื่อนมุ่งยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ พร้อมพัฒนาสังคม สิ่งแวดล้อม และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย รางวัลคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจดีเด่น (ประเภทเกียรติยศ) มอบให้คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจซึ่งปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจและส่งเสริมการบริหารงานของฝ่ายจัดการให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส สอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี รางวัลการบริหารจัดการดีเด่น มอบให้องค์กรที่บริหารจัดการองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย ปตท. มีการบริหารจัดการความยั่งยืนตามทิศทางกลยุทธ์ของกลุ่ม ปตท. (PTT by PTT) ได้แก่ Partnership & Platform, Technology for All และ Transparency & Sustainability ที่มุ่งเน้นการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของทุกภาคส่วน รางวัลการเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใสดีเด่น จากการบริหารจัดการที่โปร่งใสเป็นธรรม มีการรายงานและเปิดเผยข้อมูลสารสนเทศที่คำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตามมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการที่ดีในระดับสากล
นอกจากนี้ ปตท. ยังได้รับ รางวัลการดำเนินงานเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น จาก “โครงการศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์” ซึ่งรวบรวมองค์ความรู้ พัฒนางานวิจัยด้านการปลูกและการจัดการป่าไม้ การฟื้นฟูป่าหลากหลายรูปแบบอย่างครบวงจร สามารถสนับสนุนความรู้ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ให้แก่ประเทศ พร้อมเป็นพื้นที่ต้นแบบให้หน่วยงานและผู้สนใจทั่วไป รางวัลความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมดีเด่น ด้านความคิดสร้างสรรค์ จาก “โครงการนวัตกรรมเครื่องต้นแบบบำบัด PM 2.5 และเชื้อโรคในอากาศ” เพื่อบำบัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และบำบัด เชื้อโรคจากโรคอุบัติใหม่ที่มีการแพร่กระจายอยู่ในอากาศ มุ่งหวังที่จะพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น และ รางวัลความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมดีเด่น ด้านนวัตกรรม จาก “โครงการ PTT EV Charger and Charging Platform” ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ตอบสนองพันธกิจของประเทศในการใช้พลังงานสะอาด รวมทั้งเป็นธุรกิจ New S-Curve ของ ปตท. โดยพัฒนา EV Charger ให้ใช้ได้กับรถยนต์ไฟฟ้าทุกคัน มีระบบการสื่อสารเชื่อมต่อและยืดหยุ่นต่อการใช้งานกับ Charging Platform ต่าง ๆ รวมทั้งมีต้นทุนไม่สูง สามารถผลักดันสู่เชิงพาณิชย์
“ปตท. ขอขอบพระคุณผู้มีส่วนสนับสนุน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ สังคมชุมชน ลูกค้า ผู้ลงทุน คู่ค้า และพนักงาน ที่มีส่วนร่วมกับความสำเร็จในครั้งนี้ นับเป็นความภาคภูมิใจขององค์กรที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นทุ่มเทของ ปตท. โดย ปตท. ขอเป็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ และยืนหยัดในการสร้างคุณค่าต่อสังคมไทย พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลก นำพา ปตท. และประเทศก้าวข้ามวิกฤติ ให้เติบโต แข็งแรง อย่างยั่งยืนร่วมกันต่อไป” นายอรรถพล กล่าว