“ไซยะบุรีพาวเวอร์” แจง บริหารน้ำจาก พายุ เจิมปากา

ไซยะบุรีพาวเวอร์ แจงพายุ เจิมปากา ส่งผลต่อน้ำหลากไหลลงแม่น้ำโขง ยันเป็นโรงไฟฟ้าแบบน้ำไหลผ่าน ปล่อยน้ำตามปริมาณที่ไหลเข้า
หลังจาก พายุโซนร้อน “เจิมปากา” ซึ่งขณะนี้ได้อ่อนกำลังเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ที่ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ประกอบกับเขื่อนน้ำอู สปป.ลาวได้มีการระบายน้ำออกจากเขื่อนตามที่ได้ประกาศแจ้งเตือนมาก่อนหน้านี้
นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower บริษัทผู้บริหารโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี ในสปป.ลาว บอกว่า เมื่อ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้เริ่มมี ปริมาณน้ำไหลเข้าและผ่านโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี จำนวน 8,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเป็นปริมาณน้ำไหลผ่านโรงไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงวันที่ 1-24 ก.ค. 64 ที่มีปริมาณน้ำไหลผ่านเฉลี่ย 3,588 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เนื่องมาจากอิทธิพลพายุโซนร้อน เจิมปากา

ต่อมาเมื่อ 27 ก.ค.64 มีปริมาณน้ำไหลผ่านโรงไฟฟ้าประมาณ 7,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และทยอยลดลงเรื่อยๆ เป็น 6,400 และ 5,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในวันที่ 28 และ 29 กรกฎาคม ตามลำดับ
นายธนวัฒน์ บอกว่า โรงไฟฟ้าได้บริหารจัดการโดยการปล่อยน้ำผ่านโรงไฟฟ้าตามปริมาณน้ำจริงที่ไหลเข้าโรงไฟฟ้าตามธรรมชาติออกสู่ท้ายน้ำ เนื่องจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีไม่ใช่เขื่อนประเภทกักเก็บน้ำ ไม่มีความสามารถในการกักเก็บน้ำและไม่มีอ่างเก็บน้ำ แต่เป็นโรงไฟฟ้าแบบน้ำไหลผ่าน หรือ Run-of-River คือ ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าโรงไฟฟ้าจะเท่ากับปริมาณน้ำที่ไหลออกจากโรงไฟฟ้าเสมอ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงการไหลตามธรรมชาติของแม่น้ำโขง
และจากข้อมูลค่าเฉลี่ยรายเดือนปริมาณน้ำ ที่ไหลผ่านโรงไฟฟ้าย้อนหลัง 80 ปี ตั้งแต่ก่อนมีโรงไฟฟ้า (พ.ศ.2483-2563) พบว่า ปริมาณน้ำปัจจุบัน ยังคงอยู่ในกรอบสถิติปริมาณน้ำสูงสุดและต่ำสุด ทั้งนี้แต่ละปีจะมีปริมาณน้ำต่างกัน มีทั้งปีน้ำน้อยหรือปีน้ำมาก และคาดว่าปีนี้จะใกล้เคียงกับช่วงปี 2561 คือเป็นปีที่มีปริมาณน้ำค่อนข้างมากและเกิดขึ้นตามฤดูกาล