“ราช กรุ๊ป” ลุยโรงไฟฟ้าพลังงานลม เวียดนาม
หลังจาก บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้วางเป้าหมาย ขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมในต่างประเทศ เพื่อบรรลุเป้าหมาย 2,500 เมกะวัตต์ ในปี 2568 ที่กำหนดไว้ในแผนธุรกิจ
ล่าสุด บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมเน็กส์ซิฟ เบนเตร กำลังผลิตติดตั้ง 80 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ห่างจากนครโฮจิมินห์ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
และเมื่อเดือนมีนาคมและเมษายนที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าพลังงานลมยานดิน กำลังผลิต 214.2 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมคอลเล็กเตอร์ กำลังการผลิต 226.8 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในรัฐเวสต์เทิร์นออสเตรเลีย และรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ได้เดินเครื่องจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการแล้ว
ส่งผลให้ปัจจุบัน ราช กรุ๊ป มีกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนตามสัดส่วนลงทุนอยู่ที่ 1,100.32 เมกะวัตต์ (ไม่รวมกำลังผลิตจากการลงทุนในหุ้น EDL-GEN) คิดเป็นความก้าวหน้าร้อยละ 44 เมื่อเทียบกับเป้าหมาย 2,500 เมกะวัตต์ กำลังการผลิตรวมดังกล่าวสามารถลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 2,072,553 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้เข้าลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นเพื่อเข้าถือหุ้นร้อยละ 50 ในบริษัท Nexif Energy BT Pte. Ltd. มูลค่า 272.58 ล้านบาท บริษัทดังกล่าวถือหุ้นทั้งหมดในบริษัทย่อย Nexif Energy Ben Tre One Member Co., Ltd. ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมเน็กส์ซิฟ เบนเตร กำลังผลิตติดตั้ง 80 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ห่างจากนครโฮจิมินห์ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ในเวียคาดว่าจะใช้เวลาว่าจะก่อสร้างประมาณ 18 เดือน และจะสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในเดือนธันวาคม 2565 โดยมีการไฟฟ้าเวียดนาม (Vietnam Electricity: EVN) เป็นผู้รับซื้อไฟฟ้าภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว 20 ปี
สำหรับเงินลงทุนในโครงการเน็กส์ซิฟ เบนเตร บริษัทฯ ใช้เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือหุ้นกู้สีเขียวที่ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563
ที่ผ่านมา ราช กรุ๊ป ได้พัฒนาโครงการพลังงานลม ในออสเตรเลีย 2แห่ง ได้เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ ได้แก่ โครงการพลังงานลมคอลเลกเตอร์ (บริษัทฯ ถือหุ้นทั้งหมด) กำลังการผลิต 226.8 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลมยานดิน กำลังผลิต 214.2 เมกะวัตต์ (บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 70)
ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานลมทานฟง ในเวียดนาม กำลังการผลิต 29.7 เมกะวัตต์ (บริษัทฯ ถือหุ้น ร้อยละ 51) อยู่ระหว่างการก่อสร้างและกำหนดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปี 2564
อย่างไรก็ดี ราช กรุ๊ป มีการลงทุนโครงการพลังงานหมุนเวียน ในประเทศไทย สปป. ลาว ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม โดยมีกำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุนรวม 1,100.32 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย พลังงานลม 719.74 เมกะวัตต์ พลังงานแสงอาทิตย์ 72.48 เมกะวัตต์ พลังงานน้ำ 304.14 เมกะวัตต์ (ไม่รวมกำลังผลิตจากการลงทุนในหุ้น EDL-GEN) และพลังงานชีวมวล 3.96 เมกะวัตต์