จีนจ่อห้ามข้าราชการสูบบุหรี่
จีนควรห้ามเจ้าหน้าที่รัฐสูบบุหรี่ในสถานที่ทำงาน เน้นย้ำถึงมาตรการควบคุมยาสูบในทางปฏิบัติที่ไม่ได้ผลเท่าที่ควรในช่วงเวลาที่ผ่านมา จากข้อเสนอของผู้นำในสภาของจีนในการประชุมสภาครั้งล่าสุด
โดยเฮ่อหลิน รองประธานสภาประชาชนแห่งชาติของจีน (NPC) ยังได้แนะนำว่า ข้าราชการที่ไม่สูบบุหรี่ควรได้รับการส่งเสริมให้มีความก้าวหน้าก่อนคนอื่น
“ หากภาครัฐทำตัวเป็นตัวอย่าง ภาคส่วนอื่นอาจทำตาม และการจะทำให้จีนปลอดบุหรี่ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ” เธอระบุ
ในปี 2556 สภารัฐกิจ ( ซึ่งเป็นคณะรัฐมนตรีของประเทศจีน) ออกคำสั่งห้ามเจ้าหน้าที่รัฐสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะ และกำหนดให้สถานที่ราชการทุกแห่งเป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่
โดย 13 เมือง รวมทั้งกรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และเซินเจิ้น ก็มีกฎหมายควบคุมการสูบบุหรี่ โดยเฉพาะในสถานที่สาธารณะและสถานที่ราชการ
รัฐบาลกรุงปักกิ่งเป็นผู้นำรัฐบาลท้องถิ่นในระดับชาติเมื่อปี 2558 ด้วยการสั่งห้ามการสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะและในออฟฟิศทุกแห่ง
ทางกรุงปักกิ่งระบุว่า หลังจากมีประกาศคำสั่งห้ามนาน 4 ปี จำนวนผู้สูบบุหรี่ในเมืองลดลงประมาณ 200,000 คน แต่การบังคับใช้มาตรการห้ามในอาคารสำนักงาน ร้านอาหารและสถานบันเทิงสาธารณะยังไม่เคร่งครัดเท่าที่ควร ทำให้มีการร้องเรียนเข้ามานับพันคำร้อง
โดยเฮ่อ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ประจำมณฑลกุ้ยโจว ระบุว่า ผลวิจัยของเธอชี้ว่าคนในสถานที่ราชการต้องรับเอาควันบุหรี่มือสองเข้าร่างกายมากกว่าสถาบันอื่นๆ และข้าราชการมีอัตราการสูบบุหรี่มากกว่าประชาชนทั่วไป
“ หากรัฐบาลไม่สามารถเคลียร์เรื่องสูบบุหรี่ได้ ก็ไม่อาจทำให้เกิดผลดีในทางปฏิบัติในระดับชาติ หรือกฎหมายควบคุมการสูบบุหรี่ในท้องถิ่น แม้ว่าจะมีการผ่านเป็นกฎหมายก็ตาม” เธอระบุ
ทั้งนี้ จีนเป็นประเทศผู้ผลิตและบริโภคบุหรี่มากที่สุดในโลก โดยมีปริมาณการผลิตสูงถึง 2.3 ล้านล้านมวนต่อปี และคิดเป็น 1 ใน 3 ของปริมาณการสูบบุหรี่ทั่วโลก
CDC ของจีนระบุว่า ในปี 2560 ชายชาวจีนอายุ 15 ปีขึ้นไปประมาณครึ่งหนึ่งสูบบุหรี่ และมากกว่า 1 ใน 4 ของจำนวนประชากรทั้งประเทศที่อายุ 15 ปีขึ้นไปสูบบุหรี่
ภายใต้ Healthy China 2030 ซึ่งเป็นแผนระดับชาติในการส่งเสริมสาธารณสุข จีนตั้งเป้าลดอัตราการสูบบุหรี่ลง 20% ภายในปี 2573 และอย่างน้อยในอีก 2 ปีข้างหน้า สถานที่ราชการทุกแห่งในจีนต้องปลอดบุหรี่