จีนยอมรับบกพร่องในการรับมือไวรัส
ปักกิ่ง : สื่อภาครัฐของจีนรายงานว่า หน่วยงานบริหารสูงสุดของจีนยอมรับว่ามีความบกพร่องและความยากลำบากในการรับมือกับการระบาดของไวรัสโคโรนา ในช่วงเวลาที่โรงพยาบาลชั่วคราว ‘หั่วเสินซาน’ เริ่มเปิดให้บริการในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการระบาด
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. มีการยืนยันผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 64 ราย มากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตในวันที่ 3 ก.พ.กลายเป็นสถิติใหม่ของจำนวนผู้เสียชีวิตรายวัน ตั้งแต่ไวรัสเริ่มระบาดเมื่อปลายปีที่แล้วในเมืองอู่ฮั่น
จนถึงตอนนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตในจีนอยู่ที่ 490 ราย สูงกว่าจำนวนผู้เสียชีวิต 349 รายจากโรค Sars ในจีน ในช่วงที่เกิดการระบาดเมื่อปี 2545 – 2546 และทำให้มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกเกือบ 800 ราย และล่าสุด จำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดเกิน 24,000 รายแล้ว
ก่อนหน้านี้ กระทรวงต่างประเทศของจีนออกมาตำหนิสหรัฐฯที่ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกในการรับมือไวรัสโคโรนา โดยการแบนชาวต่างชาติที่เพิ่งเดินทางไปจีนไม่ให้เข้าประเทศ และเนื่องจากไวรัสโคโรนาระบาดไปมากกว่า 20 ประเทศ ทำให้ชาติอื่นๆ เพิ่มความเข้มงวดในการเดินทางเช่นเดียวกับสหรัฐฯ
องค์การอนามัยโลกประกาศภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ แต่ยังไม่ประกาศให้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นโรคระบาดทั่วโลก แม้จะมีรายงานผู้ติดเชื้อเสียชีวิตรายแรกนอกประเทศจีนที่ฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา และต่อมามีการยืนยันผู้เสียชีวิตรายที่ 2 ในฮ่องกง
สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า คณะกรรมการประจำกรมการเมือง (Politburo Standing Committee) เรียกร้องให้มี ‘ ระบบจัดการฉุกเฉินแห่งชาติ’ หลังจาก “พบข้อบกพร่องและความยากลำบากในการรับมือกับโรคระบาด”
“ มีความจำเป็นต้องกำกับดูแลตลาดให้เข้มแข็งขึ้น ห้ามและปราบปรามตลาดและการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายโดยเด็ดขาด”
รัฐบาลยังระบุว่า มีความต้องการ “อย่างเร่งด่วน” ทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ หน้ากากผ่าตัด ชุดป้องกันโรค และแว่นตาเพื่อต่อสู้กับการควบคุมโรคระบาด
มีบทวิเคราะห์ที่ระบุว่า ผู้บริหารระดับล่างของจีนพยายามปกปิดข้อมูลการระบาดของไวรัสโคโรนาในระยะแรกเริ่ม ทำให้ไม่มีการป้องกันและมาตรการคุมเข้มมากเพียงพอ จนลุกลามกลายเป็นการระบาดอย่างรวดเร็วไปทั่วประเทศ มีนายแพทย์รายหนึ่งที่พยายามแจ้งข้อมูลให้ประชาชนรับทราบถึงความร้ายแรงของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้บนแอปพลิเคชั่น WeChat เนื่องจากเขาเป็นแพทย์ที่รักษาผู้ติดเชื้อ 7 รายแรกในอู่ฮั่น หลังจากนั้น เขาโดนตำรวจจับและให้เซ็นเอกสารยอมรับว่าเขาปล่อยข่าวลือ แล้วปล่อยตัวกลับบ้าน จนถึงตอนนี้ เขาเป็นหนึ่งในผู้ติดเชื้อและกำลังรักษาตัวอยู่
หลายมณฑลซึ่งมีประชากรมากกว่า 300 ล้านคน รวมทั้งมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งมีประชากรมากที่สุดทางใต้ของจีน สั่งให้ทุกคนต้องสวมหน้ากากในสถานที่สาธารณะ
ไวรัสยังส่งผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ ทำให้ธุรกิจต้องปิด มีมาตรการคุมเข้มในการเดินทางระหว่างประเทศ และกระทบไลน์การผลิตของแบรนด์สินค้ารายใหญ่ทั่วโลก
เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ดัชนีในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ดิ่งลงมาเกือบ 8% ในการซื้อขายวันแรกหลังวันหยุดตรุษจีน เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลกับสถานการณ์การระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัส ขณะที่ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ในตลาดหุ้นวอลล์สสตรีทของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นมา 0.5%
มองโกเลีย รัสเซีย และเนปาลปิดพรมแดนที่ติดกับจีน ชณะที่ฮ่องกงเพิ่งประกาศเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ว่าจะปิดพรมแดนทั้งหมด เหลือเพียง 2 ด่านเท่านั้น
และเมื่อวันที่ 3 ก.พ. Cruise Lines International Association ที่เป็นตัวแทนของผู้ประกอบการเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลก ระบุว่า ขอปฏิเสธไม่รับผู้โดยสารและลูกเรือที่เพิ่งเดินทางไปจีนลงเรือ