ผู้บริโภคจีนใช้จ่ายน้อยลงปีนี้
การใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวจีนมีแนวโน้มจะชะลอตัวลงตลอดปีนี้ จากผลกระทบความผันผวนของสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่ทวีความตึงเครียดขึ้น จากข้อมูลของนักวิเคราะห์
นี่อาจเป็นปัจจัยลบกดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน เนื่องจากรัฐบาลหวังให้ผู้บริโภคมีบทบาทสำคัญในการบรรเทาผลกระทบจากสงครามการค้า
บทบาทความสำคัญของการบริโภคที่มีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนเปลี่ยนแปลงไปมากในช่วงไม่กี่ปีมานี้ คือคิดเป็น 76% ของ GDP ในปี 2561 เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากเดิมน้อยกว่า 50% ในปี 2554
นักวิเคราะห์ระบุว่า ความเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลจากความซบเซาของการลงทุนด้านการผลิต ซึ่งในทางกลับกัน อาขชะลอการเติบโตของรายได้และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเนื่องจากสัดส่วนของเงินเดือนของแรงงานยังคงมาจากภาคการผลิตและส่งออก
“ สงครามการค้าส่งผลลบกับการบริโภค เพราะกระทบกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและกระทบกับการเติบโตของรายได้ที่แท้จริง” Julian Evans-Pritchard นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสผู้เชี่ยวชาญด้านจีนที่ Capital Economics ระบุ
ตัวเลขเติบโตของการใช้จ่ายผู้บริโภคอยู่ที่ประมาณ 8% ในเดือนมิ.ย. ลดลงเมื่อเทียบกับ 10% ในเดือนมิ.ย.ของปี 2561 จากข้อมูลของ Andy Rothman นักกลยุทธ์การลงทุนประจำ Matthews Asia ขณะที่รายได้ต่อหัวประชากรเติบโต 9% ในเดือนมิ.ย. เท่ากับตัวเลขเดิมในเดือนเดียวกันของปีก่อน
โดยผู้บริโภคจีนชะลอการซื้อรถยนต์ อสังหาริมทรัพย์ รวมถึงสินค้าอื่นๆและบริการ จากผลสำรวจของธนาคารกลางจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วชี้ว่า 79% ของผู้ตอบแบบสอบถามต้องการประหยัดเงินไว้มากกว่าที่จะใช้จ่ายเงินออกไป
หวังลี่เฉิง นักวิเคราะห์ประจำธนาคารโนมุระของญี่ปุ่นระบุว่า การบริโภคของจีนจะผันผวนมากในปีนี้ เนื่องจากการลดภาษีรายได้บุคคลและมาตรการอื่นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของผู้บริโภคมีผลกระทบในวงจำกัดกับการใช้จ่าย
“ คาดการณ์เป็นวงกว้างว่าเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวอย่างต่อเนื่องในปีนี้” หวังกล่าว “ แต่ความผันผวนมากที่สุดมาจากการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน และความตึงเครียดที่ยกระดับขึ้น”
โดยหวังทำนายว่า สหรัฐฯจะขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 25% ภายในสิ้นปีนี้ หลังจากมีการขึ้นอัตราภาษี 10% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1
ก.ย.นี้ หากมาตรการภาษีสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 25% ตัวเลข GDP ของจีนจะลดลง 0.4% จากการส่งออกที่ลดลง และอีก 1% จากการลงทุนการผลิตที่ซบเซา เนื่องจากซัพพลายเชนตกต่ำ ขณะที่อัตราภาษี 10% จะส่งผลกระทบน้อยกว่า
จนถึงตอนนี้ คณะกรรมการพรรคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดในการตัดสินใจของพรรค ยังไม่มีการประกาศนโยบายการเงิน หรือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อชดเชยผลกระทบของภาษี
ทางหน่วยงานลำบากใจที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง จึงเลือกที่จะช่วยเหลือเป็นบางภาคส่วน ในการประชุมช่วงปลายเดือนก.ค. ทางคณะกรรมการยังปฏิสธที่จะผ่อนคลายความเข้มงวดกับตลาดอสังหาฯ ลงเพื่อหนุนยอดขาย แต่เลือกที่จะควบคุมเพื่อคงการเติบโตของราคาอสังหาฯไว้