หัวเว่ยยังขายดีครึ่งปีแรก
ฮ่องกง/เซี่ยงไฮ้ (รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 30 ก.ค.หัวเว่ยเทคโนโลยี บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนเตือนว่าการที่สหรัฐฯขึ้นบัญชีดำบริษัทจะส่งผลกระทบกับรายได้ในระยะสั้น แม้รายได้ช่วงครึ่งปีแรกของหัวเว่ยจะพุ่งทะยานถึง 23% จากยอดขายสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นในจีน
“ รายได้เติบโตเร็วจนถึงเดือนพ.ค.” เหลียงหัว ประธานหัวเว่ยกล่าวกับผู้สื่อข่าวในการแถลงรายได้ “เรายังคงเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องหลังจากเราถูกขึ้นบัญชีดำ ไม่ง่ายที่จะพูดว่าเราไม่มีความยากลำบากเลย และเราอาจได้รับผลกระทบกับการเติบโตในระยะสั้น”
รัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวหาว่าหัวเว่ยมีความเสี่ยงกับความมั่นคงของชาติ เนื่องจากอุปกรณ์สามารถใช้เป็นเครื่องมือสอดแนมให้รัฐบาลจีน ซึ่งหัวเว่ยปฏิเสธมาโดยตลอด
หลังจากได้รับการยกเว้นเป็นเวลา 3 เดือนจนถึงวันที่ 19 ส.ค. และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณว่าสหรัฐฯจะผ่อนคลายการคว่ำบาตรหัวเว่ย แม้จะไม่ลงลึกในรายละเอียดก็ตาม
เหลียงระบุเมื่อวันที่ 30 ก.ค.ว่า หัวเว่ยยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทในการรับมือกับการถูกขึ้นบัญชีดำ และผลิตภัณฑ์ 5G ไม่ได้รับผลกระทบ โดยบริษัทชนะได้ 11 สัญญา 5G หลังจากถูกขึ้นบัญชีดำ
ทั้งนี้ หัวเว่ย ซึ่งเป็นบริษัทที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยรายได้ในช่วงครึ่งปีแรกที่เติบโตอยู่ที่ 401,300 ล้านหยวน ( 1.81 ล้านล้านบาท) เติบโตเร็วกว่าปีที่แล้วถึง 15%
โดยยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนเติบโตขึ้นถึง 24% เป็น 118 ล้านเครื่อง เนื่องจากยอดขายในจีนสูงกว่ายอดขายทั่วโลกที่ลดลง จากข้อมูลของ Canalys หัวเว่ยขยายตลาดสมาร์ทโฟนในจีนได้กว่า 10% ในไตรมาส 2 คิดเป็นเกือบ 40% ของตลาด ขณะที่ยอดขายสมาร์ทโฟนในตลาดต่างประเทศลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
เหลียงระบุว่า ระบบปฏิบัติการบนสมาร์ทโฟน ‘หงเมิ่ง’ ยังคงอยู่ในระหว่างการพัฒนาเพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ และบริษัทยังคงพอใจจะใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของกูเกิลบนสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยต่อไป
หัวเว่ยให้ข้อมูลเกี่ยวกับหงเมิ่งเพียงเล็กน้อย คือเป็นระบบปฏิบัติการสำรองที่ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา ในกรณีที่ถูกกูเกิลตัดความสัมพันธ์ “หงเมิ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ในระยะยาว เราพูดจริงๆ ไม่ได้เกทับ” เหลียงกล่าว.