หัวเว่ยขึ้นแท่นบริษัทที่นศ.อยากทำงานด้วย
แม้มาตรการต่อต้านหัวเว่ยของสหรัฐฯ จะเริ่มส่งผลกระทบกับธุรกิจของหัวเว่ย แต่ไม่สามารถทำลายชื่อเสียงของบริษัทลงได้ และยังคงเป็นบริษัทที่นักศึกษาอยากทำงานด้วยเหมือนเดิม
โดยหัวเว่ย ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในนครเซินเจิ้นของจีน ยังคงติดอันดับเป็นบริษัทที่ดึงดูดใจนักศึกษามากที่สุด เอาชนะบริษัทคู่แข่งอย่างอาลีบาบา และ Tencent จากผลการสำรวจล่าสุดโดยบริษัทวิจัย Universum ซึ่งทำการสำรวจกับนักศึกษาจีนกว่า 50,000 คน
บริษัทหัวเว่ยได้คะแนนโหวตมากที่สุดจากนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และสามารถโค่นอาลีบาบาขึ้นแท่นเป็นขวัญใจของนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจได้เช่นกัน Universum ระบุ
อย่างไรก็ตาม การสำรวจของ Universum มีการสรุปผลในเดือนมี.ค.ปีนี้ จึงไม่สะท้อนถึง
สถานการณ์ที่มีปัญหาล่าสุดของหัวเว่ยจากมาตรการต่อต้านของสหรัฐฯ โดยเป็นการแบนไม่ให้บริษัทอเมริกันขายซอฟต์แวร์และบริการให้หัวเว่ย
“ ปีหน้า คุณจะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ” William Wu ผู้จัดการประเทศจีนของ Universum กล่าวให้สัมภาษณ์ CNN
ทั้งนี้ หัวเว่ยเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีมานี้ และกลายเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากซัมซุง
“ มีบริษัทไม่มาก ที่พูดได้ว่าพวกเขาเป็นบริษัทระดับโลกที่มีฐานที่มั่นในจีน ” Wu กล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อ CNN
ปัจจัยอื่นที่ทำให้หัวเว่ยเป็นที่ชื่นชมคือ การวางตำแหน่งบริษัทเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่มีอนาคตน่าเหลือเชื่อมากกว่าแค่บริษัทสื่อสาร หรือผู้ผลิตสมาร์ทโฟน รวมถึงสถิติการจ้างงานบัณฑิตชาวจีนจำนวนหลายพันคน
แอปเปิล ซึ่งได้ประโยชน์จากสภาพของหัวเว่ยตอนนี้ ไม่ได้รับความนิยมจากนักศึกษาชาวจีนหลังเริ่มมีสงครามการค้ากับสหรัฐฯในปีที่แล้ว โดยแอปเปิลร่วงลงมา 2 อันดับมาอยู่อันดับที่ 7 สำหรับบรรดานักศึกษาคณะวิศวะ และร่วงลงมาถึง 6 อันดับมาอยู่ที่ 20 สำหรับนักศึกษาบริหารธุรกิจ
ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ เริ่มประสบกับภาวะดิ้นรนมากขึ้นในจีน แต่ผลสำรวจของ Universum ในอินเดียกลับได้ผลสรุปที่แตกต่างไป
เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ในซิลิคอน วัลเลย์ยังเป็นที่ชื่นชอบของนักศึกษาอินเดีย โดยกูเกิลรั้งอันดับ 1 บริษัทที่อยากทำงานด้วยสำหรับนักศึกษาวิศวะและบริหารธุรกิจเป็นปีที่สองติดต่อกัน ขณะที่อเมซอน ไมโครซอฟต์ แอปเปิล และเฟซบุ๊กยังคงติดอยู่ใน 10 อันดับแรก.