เศรษฐีฮ่องกงเริ่มย้ายทรัพย์สินไปสิงคโปร์
มหาเศรษฐีในฮ่องกงหลายคนเริ่มย้ายทรัพย์สินออกนอกประเทศหลังจากรัฐบาลฮ่องกงผ่านร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปพิจารณาคดีที่จีนเป็นครั้งแรก จากข้อมูลของที่ปรึกษาการเงิน ธนาคาร และทนายความที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมเหล่านั้น
โดยมหาเศรษฐีคนหนึ่ง ซึ่งมองว่าตัวเองพอจะมีศักยภาพทางการเมืองบ้าง เริ่มย้ายทรัพย์สินกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (กว่า 3,100 ล้านบาท) จากบัญชี Citibank ในฮ่องกงไปที่บัญชี Citibank ในสิงคโปร์ จากข้อมูลของที่ปรึกษาที่เกี่ยวข้องในธุรกรรมนี้
“ เริ่มบ้างแล้ว เราได้ยินว่าคนอื่นๆ ก็เริ่มทำเหมือนกัน” ที่ปรึกษาให้ข้อมูล “ มีความกลัวว่าจีนจะเข้าถึงทรัพย์สินของคุณในฮ่องกงได้ สิงคโปร์จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม”
ที่ผ่านมา ฮ่องกงและสิงคโปร์แข่งขันกันอย่างดุเดือดที่จะขึ้นเป็นศูนย์กลางการเงินของเอเชีย
ในฮ่องกง มีจำนวนมหาเศรษฐีอาศัยอยู่จำนวนมาก โดยมีมหาเศรษฐีถึง 853 คนที่มีทรัพย์สินมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มากกว่าเป็นสองเท่ากับจำนวนมหาเศรษฐีในสิงคโปร์ จากข้อมูลในรายงานปี 2561 ของ Credit Suisse
หากกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปจีนมีผลบังคับใช้จริง มีความเป็นไปได้ที่ศาลของจีนจะขอให้ศาลฮ่องกงอายัดและยึดทรัพย์สินของผู้ที่กระทำความผิดในจีนได้
อย่างไรก็ตามหลังการประท้วงรุนแรงที่ฮ่องกงนานเป็นสัปดาห์ ในวันที่ 15 มิ.ย.แคร์รี แลม ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกงได้ประกาศเลื่อนการลงมติกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปที่จีนออกไปก่อน โดยเธอระบุว่า จะมีกระบวนรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายในสังคมให้ครอบคลุมก่อน
โฆษกรัฐบาลฮ่องกงระบุว่า คำสั่งยึดทรัพย์จากภายนอกต้องได้รับอนุญาตจากศาลฮ่องกงและสามารถยื่นคัดค้านได้ ซึ่งหมายความว่าต้องเป็นความผิดตามกฎหมายของทั้งสองประเทศ
“ สิทธิและเสรีภาพของชาวฮ่องกงและชาวต่างชาติในฮ่องกง รวมถึงทรัพย์สินของพวกเขา จะได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายพื้นฐาน” โฆษกเสริม โดยอ้างถึงรัฐธรรมนูญฉบับย่อของฮ่องกง
ธนาคารเอกชน 3 แห่งระบุว่า พวกเขาได้รับการสอบถามเข้ามามากจากลูกค้าเกี่ยวกับผลกระทบของกฎหมายฉบับนี้ แต่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวทางการเงิน
Kevin Yam ทนายความที่มีชื่อเสียงด้านกฎหมายพาณิชย์ระบุว่า มีบรรยากาศของความกังวลอยู่ลึกๆ ด้วยความกลัวว่ากฎหมายนี้อาจมีผลในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า.