สื่อชี้จีนไม่สนคุยการค้ากับสหรัฐฯ
สื่อจีนส่งสัญญาณว่า จีนไม่มีความสนใจที่จะพูดคุยกับสหรัฐฯ ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่น่าพอใจเรื่องภาษีที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รัฐบาลระบุว่าจะมีมาตรการเพื่อค้ำจุนเศรษฐกิจในประเทศ
หากไม่มีความเคลื่อนไหวที่แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯมีความจริงใจ ก็ไม่มีความหมายที่สหรัฐฯ จะมาจีนและมีการเจรจาการค้าอีก จากบล็อก Taoran Notes ซึ่งเป็นของสำนักข่าวซินหัวและพีเพิล เดลี่ สื่อของพรรคคอมมิวนิสต์
กระทรวงพาณิชย์ของจีนระบุเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ว่า ไม่มีข้อมูลว่าตัวแทนสหรัฐฯมาที่ปักกิ่งเพื่อเจรจาการค้าต่อสัญญาณบ่งชี้ว่าการเจรจาที่หยุดนิ่ง จะมีโอกาสกลับมาอีกเมื่อประธานาธิบดีสีจิ้นผิงและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์พบกันในการประชุม G20 ที่ญี่ปุ่นในเดือนหน้า โดยการประชุมของทั้งสองผู้นำในอาร์เจนตินาเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้วทำให้การเจรจากลับมาเข้าที่เข้าทาง และล้มเหลวอีกครั้งในเดือนพ.ค.นี้ที่กรุงวอชิงตัน
“ หากสหรัฐฯไม่ยอมในประเด็นสำคัญ มีโอกาสน้อยที่จีนจะยอมเจรจาอีก ” โจวเสี่ยวหมิงอดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงพ่ชาณิชย์และทูตระบุ “ จุดยืนของจีนยิ่งแข็งมากขึ้น และไม่รีบร้อนจะทำข้อตกลง ” เพราะวิธีการของสหรัฐฯคือการบีบคั้น และจีนเองมีภาพลวงตาเกี่ยวกับความจริงใจของสหรัฐฯ
เกาเฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ให้ความเห็นกับสื่อว่า จีนมีความกังวล 3 ข้อสำคัญที่ต้องการให้มีการตอบรับก่อนบรรลุข้อตกลง โดยเสริมว่าความตึงเครียดที่ยกระดับขึ้นแต่เพียงฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ ส่งผลทำให้การเจรจาล้มเหลว
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. รัฐบาลจีนระบุว่า จะทำงานเพื่อรับมือกับมาตรการภาษีที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ และรักษาระดับทำให้เศรษฐกิจสมดุล โดยคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติกำลังศึกษาผลกระทบของภาษี และจะมีมาตรการขานรับหากจำเป็น
สหรัฐฯพูดถึงความต้องการในการเจรจาต่อ แต่ขณะเดียวกัน สหรัฐฯกำลัง “ เล่นแง่เพื่อขัดขวางบรรยากาศ” จากบล็อก Taoran Notes โดยชี้ว่าท่าทีของทรัมป์ในสัปดาห์นี้คือการควบคุมหัวเว่ย
“ เราไม่เห็นว่าสหรัฐฯมีความจริงใจในการผลักดันการเจรจา มีแต่จะขยายการกดดันมากยิ่งขึ้น ” บล็อกระบุ “ หากสหรัฐฯเพิกเฉยต่อความตั้งใจของประชาชนจีน ก็ไม่อาจได้การตอบรับที่มีประสิทธิภาพจากฝั่งจีน ”
ขณะที่หน้าแรกของพีเพิลเดลีมีบทความที่แสดงความเห็นว่า สงครามการค้ากับสหรัฐฯจะทำให้จีนแข็งแกร่งขึ้น และจะไม่ทำให้จีนต้องยอมคุกเข่า “ สงครามการค้าไม่อาจทำให้จีนยอมสยบ มีแต่จะหล่อหลอมให้เราแข็งแกร่งขึ้น ”
หลิวเสี่ยวหมิง เอกอัครราชทูตจีนประจำอังกฤษระบุในบทความในสื่อ Evening Standard ว่าจีนไม่ต้องการสงครามการค้า แต่จะสู้ในมุมของตัวเอง
“ ความเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพระหว่างสหรัฐฯและจีน ไม่เพียงมีความสำคัญกับสองประเทศเท่านั้น แต่ส่งผลกับเศรษฐกิจโลกโดยรวม ”