รองนายกฯจีนเดินหน้าคุยการค้าสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ทางการจีนระบุว่า รองนายกรัฐมนตรีหลิวเฮ่อจะเดินทางไปเยือนสหรัฐฯในสัปดาห์นี้เพื่อเจรจาการค้าตามกำหนดเดิม ผ่อนคลายความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นหลังผู้นำสหรัฐฯขู่จะขึ้นภาษีรอบใหม่กับสินค้านำเข้าจากจีน
ทางการสหรัฐฯระบุว่า จีนมีท่าทีกลับลำกับข้อผูกพันสำคัญที่ทำระหว่างการเจรจานานหลายเดือนเพื่อยุติสงครามการค้าระหว่างกัน
ความกังวลเหล่านั้นกระตุ้นให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ว่า สหรัฐฯจะขึ้นภาษีเป็น 25% จากเดิม 10% กับสินค้านำเข้าจากจีนภายในสิ้นสัปดาห์นี้ และจะขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้าที่เหลือจากจีนในเร็วๆนี้
โดยทวีตของประธานาธิบดีทรัมป์ถือเป็นการยุติการพักรบทางการค้านาน 5 เดือน ซึ่งที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายให้กับทั้งสองประเทศจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และขัดขวางซัพพลายเชนการผลิต
ความกลัวว่าการเจรจาจะล้มเหลวส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกและราคาน้ำมันดิ่งลงในวันที่ 6 พ.ค. และมีการคาดการณ์ว่าจีนอาจยกเลิกไม่ให้รองนายกฯหลิวเดินทางไปเจรจาที่สหรัฐฯตามกำหนดการเดิม
กระทรวงพาณิชย์ของจีนยืนยันว่า รองนายกฯหลิว ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะในการเจรจาในกรุงปักกิ่งในครั้งล่าสุด จะเดินทางไปเยือนสหรัฐฯในวันที่ 9 – 10 พ.ค.นี้ โดยทางกระทรวงไม่ได้ให้รายละเอียด หรือหัวข้อของการเจรจา
โรเบิร์ต ไลไธเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ว่า “ ตลอดสัปดาห์ที่แล้ว หรือสิ่งที่เราได้เห็น คือจีนมีท่าทีบั่สั่นคลอนข้อผูกพัน” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าว “ ซึ่งในความเห็นของเราเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ”
“ เราไม่ล้มการพูดคุยในจุดนี้ แต่สำหรับตอนนี้ วันที่ 10 พ.ค.ที่จะถึง จะมีการขึ้นภาษี”
ขณะที่สตีเวน มนูชิน รมว.กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ซึ่งถูกมองว่ามีท่าทีแข็งกร้าวน้อยที่สุดกับจีน ระบุว่า การกลับลำของจีนดูจะชัดเจนขึ้น เนื่องจากมี “ข้อมูลใหม” ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเขาปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเจาะจง และกล่าวว่า สหรัฐฯหวังจะปิดดีลในสัปดาห์นี้ตั้งแต่แรก
“ พวกเขาพยายามจะกลับไปใช้ภาษาที่มีการเจรจาก่อนหน้านี้ ภาษาที่ชัดเจน ซึ่งมีแนวโน้มจะเปลี่ยนดีลอย่างเห็นได้ชัด” รมว.มนูชินกล่าว “ ทีมเศรษฐกิจทั้งทีม ซึ่งเป็นหนึ่งเดียวกันโดยสมบูรณ์ มีคำแนะนำให้ท่านประธานาธิบดีขับเคลื่อนมาตรการภาษี หากเราไม่สามารถปิดดีลได้ภายในสัปดาห์นี้”
ทั้งนี้ จีนยืนยันว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจด้วยการเปิดตลาดกว้างให้ธูรกิจต่างชาติตามไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้เท่านั้น ไม่ใช่เป็นการขานรับกรณีพิพาททางการค้า
เมื่อเร็วๆนี้ จีนได้มีมติเห็นชอบกฎหมายใหม่ คือกฎหมายการลงทุนจากต่างชาติ และมีการปรับแก้ไขกฎหมายอื่นๆ เป็นความเคลื่อนไหวเพื่อแสดงให้เห็นว่าจีนมีความพยายามที่จะรับมือกับสิ่งที่สหรัฐฯและนักลงทุนต่างชาติกังวล ซึ่งรวมถึงสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีน