จีนขึ้นภาษีโต้กลับสหรัฐฯ 6 หมื่นล้านดอลลาร์
เมื่อวันที่ 18 ก.ย. จีนและสหรัฐฯ ยกระดับสงครามการค้าให้รุนแรงยิ่งขึ้นเมื่อจีนโต้กลับสหรัฐฯ ด้วยมาตรการภาษีมูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ หลังสหรัฐฯประกาศมาตรการภาษีรอบใหม่มูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กับสินค้านำเข้าของจีนก่อน
ทั้งนี้ มาตรการภาษีที่โต้ตอบกันไปทำให้กรณีพิพาทระหว่างสองประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจยิ่งร้าวลึกมากยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 17 ก.ย.รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศว่าจะเริ่มจัดเก็บภาษีรอบใหม่อัตรา 10% มูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กับสินค้านำเข้าของจีนในวันที่ 24 ก.ย.นี้ และจะปรับขึ้นอัตราภาษีเป็น 25% ภายในสิ้นปี 2561 นี้
“ จีนถูกบีบให้ต้องตอบโต้กับการกีดกันทางการค้าตามอำเภอใจของสหรัฐฯ และไม่มีทางเลือกที่จะต้องโต้กลับด้วยมาตรการภาษีเช่นเดียวกัน ” กระทรวงการคลังของจีนระบุในแถลงการณ์บนเว็บไซต์เมื่อวันที่ 18 ก.ย.
โดยปักกิ่งจะจัดเก็บภาษีกับสินค้าของสหรัฐฯ 5,207 รายการ ตั้งแต่ก๊าซธรรมชาติเหลวไปจนถึงเครื่องบิน รวมถึงผงโกโก้และผักแช่แข็ง ในอัตรา 5% และ 10% แทนที่จะเป็นอัตราที่มีการกำหนดไว้เดิมคือ 5%, 10%, 20% และ 25% กระทรวงการคลังของจีนระบุ
ทั้งนี้ มาตรการภาษีเพิ่มเติมของทั้งสองประเทศจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 ก.ย.นี้
จนถึงตอนนี้ สหรัฐฯจัดเก็บภาษีกับสินค้านำเข้าของจีนมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อกดดันจีนให้เปลี่ยนแปลงวิธีการทางการค้า การถ่ายทอดเทคโนโลยี และนโยบายการอุดหนุนอุตสาหกรรมไฮเทคของรัฐบาลจีน
ขณะที่ทั้งสองประเทศระบุว่า พร้อมเปิดกว้างให้มีการเจรจาการค้าระหว่างกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ โพสต์บนทวิตเตอร์กล่าวหาจีนว่าตั้งเป้าโจมตีสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ เพื่อให้ส่งผลกระทบต่อฐานเสียงของเขาในการเลือกตั้งเดือนพ.ย.นี้
“ จีนแสดงอย่างเปิดเผยว่าพยายามที่จะทำให้เกิดผลกระทบและเปลี่ยนแปลงการเลือกตั้งของเราด้วยการโจมตีเกษตรกรของเรา เจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ และแรงงานในอุตสาหกรรมเพราะพวกเขามีความภักดีกับผม ” ทรัมป์ทวีต
ไม่มีความชัดเจนว่าแถลงการณ์ฉบับใดจากจีนที่ทรัมป์อ้างถึงในโพสต์ของเขา มีวีดีโอสั้นที่เผยแพร่ในฤดูร้อนปีนี้ของจีนที่ชี้ว่า เกษตรกรสหรัฐฯ จะไม่โหวตออกเสียงให้ทรัมป์หากรายได้ของพวกเขาหดหายจากนโยบายการค้าของทรัมป์
ทรัมป์ออกโรงเตือนเมื่อวันที่ 17 ก.ย.ว่า หากจีนโต้กลับด้วยมาตรการภาษีเดียวกันที่ส่งผลต่อเกษตรกร หรืออุตสาหกรรมของสหรัฐฯ “ เราจะใช้มาตรการภาษีเฟส 3 ทันที ซึ่งจะมีมูลค่าประมาณ 267,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กับสินค้านำเข้าของจีน ”
เจ้าหน้าที่รัฐอาวุโสที่กำกับดูแลของจีนระบุว่า นโยบายการค้าของสหรัฐฯจะล้มเหลวเนื่องจากจีนมีนโยบายการเงินและงบประมาณที่พร้อมรับมือกับผลกระทบจากการค้า และรัฐบาลยังได้ใช้จ่ายงบประมาณกับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศอีกด้วย
“ ประธานาธิบดีทรัมป์เป็นนักธุรกิจที่เด็ดขาด และเขาพยายามกดดันจีน เพื่อบีบให้เราเจรจา ผมคิดว่ากลยุทธ์แบบนี้ใช้ไม่ได้กับจีน ” ฟางซิงไห่ รองประธานหน่วยงานที่กำกับดูแลของจีนระบุในการประชุมในเมืองท่าเทียนจีน.
