ฮ่องกงประท้วงไร้แกนนำ หาจุดจบยาก
ฮ่องกง (บลูมเบิร์ก) – เบอร์นาร์ด ชาน ที่ปรึกษาสูงสุดของรัฐบาลฮ่องกง กำลังมองหาผู้ประท้วงที่ทรงอิทธิพลมากพอจะทำข้อตกลงกับทางรัฐบาลเพื่อยุติการประท้วงที่ยืดเยื้อยาวนานกว่า 3 เดือน
ในการรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับผู้ประท้วงและพูดคุยกับเพื่อนๆที่ต่อต้านรัฐบาล ที่ปรึกษาชานมักได้ยินว่า การประท้วงจะยุติหากแคร์รี แลม ผู้บริหารสูงสุดทำตามข้อเรียกร้อง 2 ข้อจากทั้งหมด 5 ข้อของผู้ประท้วง แต่เขาไม่พบใครที่จะสามารถรับประกันให้เขาได้ว่า ผู้ประท้วงคนอื่นๆจะหยุดหลังจากเธอถอนกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนอย่างเป็นทางการที่เป็นชนวนเหตุของการประท้วงที่เริ่มในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
“ คุณคนเดียวที่จะหยุด มันไม่พอ ผมจะต้องเจรจากับใคร ?” ชานระบุในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ก่อนที่จะเกิดเหตุปะทะกันรุนแรงอีกครั้งช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา “ ผมไม่สามารถโน้มน้าวให้รัฐบาลมาที่โต๊ะเจรจาได้ เพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำข้อตกลงกับใคร”
การขาดแกนนำที่ชัดเจนเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้การประท้วงลากยาวและไม่มีสัญญาณว่าจะยุติ สำหรับผู้ประท้วง นี่ถือเป็นกลุยุทธ์ที่วางแผนมา เพราะในการประท้วงเมื่อปี 2557 รัฐบาลสามารถจับกุมตัวบรรดาแกนนำและจำคุกพวกเขา ขณะที่ปัจจุบันทางกลุ่มผู้ประท้วงกลายเป็นกลุ่มนิรนาม และบริหารจัดการวางแผนการประท้วงบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Telegram และ LIHKG ซึ่งยากที่จะติดตามแกะรอย
ความเคลื่อนไหวของการประท้วงได้แรงบันดาลใจมาจากบรู๊ซ ลี ต้นตำรับนักแสดงบู๊ของฮ่องกงในอดีต หลังจากความอ่อนล้าของการประท้วงนาน 79 วันของการปฏิวัติร่มในปี 2557 และทำให้แกนนำตกเป็นเป้าของการจับกุม ผู้ประท้วงในครั้งนี้ทำตามปรัชญาของบรู๊ซ ลีที่ว่า “ทำใจให้ว่าง ไร้ร่องรอย ไร้รูปทรงเหมือนสายน้ำ”
“ น้ำสามารถไหล หรือทำลายได้ จงเป็นดังสายน้ำเถิด สหาย” เป็นคำสัมภาษณ์ของลีที่ตอนนี้โด่งดังเป็นที่รู้จักมาก
แทนที่จะรวมตัวประท้วงแบบยาวนาน ผู้ประท้วงจัดให้มีการประท้วงเป็นจุดๆรอบเมืองและสลายตัวอย่างรวดเร็วไปสถานที่ใหม่เมื่อตำรวจยิงแก๊สน้ำตา
สำหรับรัฐบาลปักกิ่ง กลยุทธ์การประท้วงทำให้ยากจะควบคุม โดยโฆษกรัฐบาลพยายามกล่าวโทษว่ามีผู้ทรงอิทธิพลในสหรัฐฯและตัวแทนในฮ่องกงเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง
โดยที่ปรึกษาชาน ประเมินว่ามีกลุ่มหัวรุนแรงกว่า 2,000 คนที่ควบคุมการประท้วง และมีอีกหลายพันคนที่ทำให้สถานการณ์ขยายตัวเป็นวงกว้าง เขาไม่เชื่อว่าการประท้วงครั้งนี้ไม่มีแกนนำโดยสิ้นเชิง
“ เป็นความเคลื่อนไหวที่ไร้แกนนำ อย่างที่บอกกัน แต่ชัดเจนว่ามีบางคนที่ทำงานได้ดีกว่ารัฐบาล หรือตำรวจ” ชานกล่าว “ ผมว่ามีบางคน ที่ไหนสักแห่ง อาจเป็นต่างประเทศหรือไม่ก็ได้ ผมไม่รู้จริงๆ แต่ผมต้องขอพูดว่า คุณไม่อาจพูดได้ว่าเป็นความเคลื่อนไหวของประชาชนเท่านั้น ต้องมีอะไรมากกว่านั้น”.