อีอีซี โรดโชว์ เมืองการบิน เรียกนักลงทุน
อีอีซี เตรียม โรดโชว์ เมืองการบิน หลังโควิดคลี่คลาย และเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน จีน อินเดีย ลงทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคใต้
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวในงานเสวนา EEC Future : เอกชนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ฟื้นเศรษฐกิจไทย จัดโดย กรุงเทพธุรกิจ โดยระบุว่า แผนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ปัจจุบันได้ผลักดันในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานไปแล้ว และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการดำเนินงาน 2 เรื่องหลัก คือ การชักจูงนักลงทุน จะให้น้ำหนักมากขึ้น และการสร้างวิถีชีวิตแบบใหม่ให้ประชาชน ยกระดับเมือง สร้างเมืองและสิ่งแวดล้อมของเมือง
ส่วนเป้าหมายการลงทุนของ อีอีซี ได้วางไว้ที่ 1.7 ล้านล้านบาท ผ่านมา 3 ปี ได้อนุมัติการลงทุนไปแล้ว 1.6 ล้านล้านบาทถึงเป้าได้ก่อนกำหนด อีอีซีมีเป้าหมายจะกระตุ้นผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (จีดีพี) โตเป็น 5% จาก 3% แต่จากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19) ส่งผลให้เป้าหมายกระตุ้นจีดีพี เหลือเพียง 2% ดังนั้นอีอีซีจะต้องเร่งขับเคลื่อนการลงทุนให้มากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้ตามที่วางไว้
นายคณิศ กล่าวว่า เดิมประมาณการณ์ไว้ว่าในช่วงแต่ละปีหลังจากนี้ อีอีซีจะดึงเม็ดเงินลงทุนได้ 3-4 แสนล้านบาทต่อปี แต่เพื่อผลักดันจีดีพีให้โต 5% อีอีซีจึงต้องทำให้ได้มากกว่าเป้าหมาย ดังนั้นในระยะข้างหน้า อีอีซี ต้องเพิ่มการลงทุนมากกว่า 1.7 ล้านล้านบาท โดยแผนที่จะทำส่วนหนึ่งจะมาจากการสร้างเมือง เพื่อทำให้เม็ดเงินลงทุนที่ตอนนี้เรามีโครงสร้างพื้นฐานแล้ว เพิ่มขึ้นมาอีกปีละ 2 แสนล้านบาท จากที่ยื่นขอส่งเสริมผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ (BOI)มาปีละ 8 แสนล้านบาท
และ แม้ว่าท่องเที่ยวยังไม่กลับมา จากผลกระทบของโควิด-19 แต่อีอีซีกำลังจะเติบโตในปีหน้าคาดว่า อีอีซีจะขยายตัวนำจีดีพีประเทศ โดยจะมาจากการกระตุ้นเม็ดเงินลงทุนในส่วนของอุตสาหกรรมเป้าหมายให้เกิดขึ้น เช่น ศูนย์การแพทย์ เทคโนโลยี 5G ที่ตอนนี้ใช้ได้ 100% ดังนั้นแกนนำอุตสาหกรรมป้าหมายจะเพิ่มมูลค่าการลงทุนได้อีก รวมไปถึงการทำคลัสเตอร์เกษตร และการพัฒนาเมืองร่วมกับจังหวัด
สำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายในปลายปีนี้ อีอีซีจะเริ่มทำโรดโชว์ท่าอากาศยานอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก รวมทั้งจะเปิดหน้าดินให้โครงการโครงสร้างพื้นฐานเริ่มงานก่อสร้าง โดยสัญญาว่าภายในปีนี้ จะเริ่มเห็นการเปิดหน้าดินเป็นเรื่องราวทั้งรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และสนามบินอู่ตะเภา และในระยะต่อไป จำเป็นต้องมองการเชื่อมโยงกับจีนในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน และมองการเชื่อมไปยังอินเดียโดยการลงทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคใต้ หรือ SEC ด้วย
