ข่าวเด่น เย็นนี้ 7 ต.ค.2567
ข่าวเด่น เย็นนี้ ทำงานได้ 1 เดือน รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร กำลังจะเผชิญกับการชุมนุมจากหลายด้าน
เรื่องที่ 5,193 “สนธิ ลิ้มทองกุล” อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประะกาศให้โอกาสรัฐบาลแพทองธาร ถึงต้นปีหน้า หากเจออะไรไม่ชอบมาพากล ไม่ปฏิบัติตามจริยธรรม ก็จะนำม็อบลงถนน ขับไล่รัฐบาลแพทองธาร
อีกคนคือ “จตุพร พรหมพันธุ์” อดีตแกนนำเสื้อแดง มาในนามคณะหลอมรวมประชาชน ขู่ว่าถ้ารัฐบาล ออกนโยบายเปิดกาสิโน และปล่อยให้ต่างชาติเช่าที่ดินในประเทศไทยถึง 99 ปี เมื่อไหร่ เจอกันแน่
ความเคลื่อนไหวทางการเมือง 2 เรื่องนี้ จะมีความสอดคล้องกันหรือไม่ ก็ไม่อาจทราบแน่
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวนี้ เป็นแรงกดดันให้รัฐบาลอิ๊งค์ ไม่กล้าเดินหน้าตามนโยบายอย่างเต็มที่
โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับประเด็นจริธรรม ซึ่งถูกมองว่าจะกลายเป็นชนวนความขัดแย้งครั้งใหม่
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลพรรคเพื่อไทย จึงกล้าๆกลัวๆในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะเป็นนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย ก็ตาม
ดังนั้น การเดินหน้านโยบายของรัฐบาลหลังจากนี้ จึงต้องเดินไปด้วยความระมัดระวัง เพราะถ้าก้าวผิดแม้แต่นิดเดียว หายนะอาจเกิดขึ้นต่อรัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เรื่องที่ 5,194 ภาวะสงครามที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลางขณะนี้คงทำให้หลายคนมีความกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่อาจจะต้องปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และจะมีผลกระทบต่อเงินในกระเป๋าอย่างหลีกเลียงไม่ได้
ล่าสุดกระทรวงพลังงานโดยพี่บอล “วีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู” รองปลัดกระทรวงพลังงานป้ายแดง ในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน ออกมาให้ความสบายใจได้เปราะหนึ่งว่าได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินและเตรียมความพร้อมหากสถานการณ์ทวีความรุนแรงมากขึ้น
โดยเน้นย้ำเลยว่าขณะนี้ในด้านปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงยังมีเพียงพอใช้ในประเทศอย่างแน่นอน ปัจจุบันมีน้ำมันดิบคงเหลือประมาณ 3,365 ล้านลิตร เพียงพอต่อความต้องการใช้ได้ 26 วัน น้ำมันดิบที่อยู่ระหว่างขนส่ง 2,055 ล้านลิตร เพียงพอต่อความต้องการใช้ 16 วัน
และน้ำมันสำเร็จรูป 2,414 ล้านลิตร เพียงพอต่อความต้องการใช้ 20 วัน รวมจำนวนมีปริมาณน้ำมันคงเหลือและปริมาณสำรองที่สามารถใช้ได้ 62 วัน ออกมาให้ความสบายใจกันแต่เนิ่นๆแบบนี้ก็เรียกว่าดีเยี่ยมเลยล่ะขอรับเจ้านาย
เรื่องที่ 5,195 ภาวะตลาดเงินบาท วันนี้ (7ต.ค.) ปิด 33.44/47 อ่อนค่าจากช่วงเช้า ระหว่างวันไร้ปัจจัยใหม่ นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ 33.44/47 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิดตลาด เมื่อเช้าที่ระดับ 33.32/33 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.30 – 33.50 บาท/ดอลลาร์
ทั้งนี้ ระหว่างวันยังไร้ปัจจัยใหม่ ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อของไทยที่ประกาศออกมานั้น ก็ไม่ได้มีนัยสำคัญต่อตลาดเงินบาท ขณะที่ค่าเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวทรงตัวเช่นเดียวกับเงินบาท
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.30 – 33.70 บาท/ดอลลาร์
เรื่องที่ 5,196 ประเด็นวันนี้ จับตา “ขุนคลัง-พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กดปุ่มกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง” หรือ “VAYU1” ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ วันแรก จำนวน 150,000 ล้านบาท และเมื่อรวมกับ เงินกองทุนเดิม ทำให้ “VAYU1” มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ประมาณ 500,000 ล้านบาท จึงขอให้มั่นใจได้ว่า จากนี้ไป ตลาดหุ้นไทยจะไม่ไหลรูด ไร้ทิศทางแบบเก่าๆ อีกต่อไปแล้ว ครับพี่น้อง!!
เรื่องที่ 5,197 หลังจากเกิดกระแสข่าว Google หันมาลงทุนในไทยหลายพันล้านนั้น ทำให้พาณิชย์ เร่งเครื่องเต็มสูบ เพื่อดันไทยขึ้นแท่น Data Center Hub อาเซียน โดย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เผยว่า ประเทศสมาชิก ACD ที่ได้หารือมีท่าทีในเชิงบวก พร้อมทั้งชื่นชมไทยที่มีพัฒนาการด้านเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ตนจะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์ข้อมูลดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน และจะผลักดันประเด็นดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ในการประชุม ASEAN Summit ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงเวียงจันทน์ในสัปดาห์นี้ ถ้าไปได้สวย จะนำพาความเจริญกลับสู่ประเทศได้อีกเป็นกรอบเป็นกำเลยนะขอรับ
สรุปข่าวเด่นต่างประเทศ
เรื่องที่ 5,198 ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ปรับเพิ่มการประเมินเศรษฐกิจของ 2 ใน 9 ภูมิภาค โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวต่อเนื่องหลังเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อช่วงต้นปี และผลผลิตยานยนต์ที่เพิ่มขึ้นหลังเหตุการณ์อื้อฉาวเกี่ยวกับการโกงผลทดสอบคุณภาพยานยนต์
BOJ เปิดเผยรายงานเศรษฐกิจรายไตรมาส หรือ ซากุระ รีพอร์ต (Sakura Report) ในวันนี้ (7 ต.ค.) โดยระบุว่า ธนาคารกลางได้ปรับเพิ่มการประเมินเศรษฐกิจในภูมิภาคโฮคุริคุ ซึ่งได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในภาคกลางของญี่ปุ่น และภูมิภาคโตไก ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่นาโกย่า โดยในรายงานยังระบุว่า “เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวในระดับปานกลาง แม้ยังมีผลกระทบบางส่วนจากเหตุแผ่นดินไหวที่คาบสมุทรโนโตะ” ขนาด 7.6 แมกนิจูดเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
เรื่องที่ 5,199 สำนักงานสถิติแห่งชาติของเกาหลีใต้คาดการณ์ว่า ผลผลิตข้าวของเกาหลีใต้จะลดลง 1.2% ในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันปีที่ 3 เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกข้าวลดน้อยลง ซึ่งสำนักงานสถิติระบุว่า เกาหลีใต้มีแนวโน้มที่จะผลิตข้าวได้ในปี 2567 รวมอยู่ที่ 3,657,000 ตัน ซึ่งลดลง 1.2% เมื่อเทียบกับระดับ 3,702,000 ตันในปี 2566 และมีแนวโน้มลดลงเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นผลมาจากพื้นที่เพาะปลูกข้าวที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างข้อมูลของสำนักงานสถิติเกาหลีใต้ว่า พื้นที่เพาะปลูกข้าวของเกาหลีใต้ลดลง 1.5% สู่ระดับ 697,714 เฮกตาร์ในปี 2567 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2508 ส่วนการบริโภคข้าวภายในประเทศลดลงในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการรับประทานอาหารของชาวเกาหลีใต้
เรื่องที่ 5,200 ผลสำรวจล่าสุดจากสถาบันวิจัยแห่งญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า ประชากรญี่ปุ่นอายุ 65 ปีขึ้นไปที่ไม่มีญาติสนิท จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นราว 1.5 เท่าในปี 2593 และคิดเป็นสัดส่วนกว่า 10% ของประชากรสูงอายุทั้งหมด โดยสถาบันฯ ระบุว่า ประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปที่ไม่มีญาติสายตรงถึงลำดับที่ 3 ซึ่งรวมถึงเหลน และลูกสาวหรือลูกชายของหลาน จะมีจำนวน 4.48 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนราว 11.5% ของประชากรสูงอายุทั้งหมดที่คาดว่าจะแตะหลัก 39 ล้านคนในปี 2593
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตัวเลขประมาณการดังกล่าวซึ่งเป็นผลมาจากการแต่งงานน้อยลงในญี่ปุ่น ได้จุดกระแสวิตกกังวลว่าใครจะทำหน้าที่เป็นผู้ค้ำประกันที่โรงพยาบาลและบ้านพักคนชรา รวมถึงรับรองศพของประชากรสูงอายุกลุ่มนี้ ทั้งนี้ ประมวลกฎหมายแพ่งของญี่ปุ่นกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบให้ญาติสายตรงถึงลำดับที่ 3 ดูแลผู้สูงอายุในครอบครัว
เรื่องที่ 5,201 ผลสำรวจล่าสุดเผยสัญญาณชัดว่า ตลาดแรงงานของสหราชอาณาจักร (UK) เริ่มซบเซาลงในเดือนก.ย. โดยค่าจ้างเริ่มต้นขยับขึ้นเชื่องช้าที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี ข้อมูลนี้คาดว่าจะเป็นข่าวดีสำหรับธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ที่กำลังพิจารณาลดดอกเบี้ยในอนาคต
จากการสำรวจร่วมกันของสมาพันธ์การสรรหาและการจ้างงาน (REC) และ เคพีเอ็มจี (KPMG) พบว่า อัตราค่าจ้างเริ่มต้นของพนักงานประจำเติบโตในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2564 ส่วนดัชนีการจ้างงานประจำดิ่งลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แต่อัตราการลดลงในเดือนก.ย. ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ รีฟส์เคยเตือนว่าอาจมีการขึ้นภาษีบางประเภท เพื่อเพิ่มงบฯ ให้บริการสาธารณะและการลงทุน ภายใต้รัฐบาลพรรคแรงงานชุดใหม่ของนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ นอกจากนี้ ผลสำรวจของ REC/KPMG ยังชี้ว่า จำนวนผู้สมัครงานยังคงเพิ่มขึ้น ขณะที่ตำแหน่งงานว่างลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 และลดลงเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.
โดยนพวัชร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สลาก N3 ขายวันแรก 17 ต.ค.นี้