ข่าวเด่น เย็นนี้ 23 ส.ค.2567
ข่าวเด่น เย็นนี้ การเมืองไทย ยังวนเวียนอยู่กับวงวนแห่งงูเห่า
เรื่องที่ 4,893 พรรคไทยสร้างไทย ที่นำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ปรากฏงูเห่า 6 ตัว เรียกว่า สส.หมดพรรคกลายเป็นงูเห่าไปเสียแล้ว โดยทั้ง 6 สส.ล้วน โหวตหนุน แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31
ความจริงแล้วรัฐบาลเพื่อไทย ไม่จำเป็นต้องมีเสียงสนับสนุนเพิ่ม เสถียรภาพของรัฐบาลก็ยังแข็งเกร่ง แต่การปรากฏงูเห่าไทยสร้างไทย ว่ากันว่า มีการต่อรองร้องขอตำแหน่งในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
อีกทั้ง การปรากฏงูเห่า ยังเป็นการเผื่อเหลือเผื่อขาด โดยมองว่า ดีไม่ดี พรรคพลังประชารัฐ ของ ลุงป้อม อาจแตก สายลุงป้อม 10 กว่าคน อาจแยกออกจากรัฐบาล
ฉะนั้นแล้ว จึงต้องมีงูเห่าไว้สำรอง เผื่อเหตุฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงงูเห่า ก็ไม่ควรเกิดขึ้นในการเมืองไทย เพราะการจะได้มาซึ่งงูเห่า ก็ย่อมได้มาซึ่งผลประโยชน์
ที่สำคัญการที่ฝ่ายค้าน ไปสนับสนุนฝ่ายรัฐบาล กระบวนการตรวจสอบ จะมีประสิทธิภาพได้อย่างไร
เรื่องที่ 4,894 วันนี้ (23 ส.ค. 67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าหารือ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ทั้งหอการค้าไทย-จีน และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือส.อ.ท.
แน่นอนว่าแต่ละองค์กรต่างก็มีข้อเสนอมากมายที่จะให้นายกฯดำเนินการ โดยทั้งฝั่งของหอการค้าไทย-จีน ที่มี “ณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล” ประธานกรรมการนำทัพ มีการชี้แจงหลายเรื่องเกี่ยวกับสินค้าจีน
ทั้งการที่ไทยขาดดุลการค้าจีนมาอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นผลจากโครงสร้างสินค้านําเข้าของไทยจากจีน เป็นสินค้าทุน และสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสําเร็จรูป แต่โครงสร้างสินค้าส่งออกของไทยไปจีนเป็นสินค้าอุตสาหกรรมต่างๆ และสินค้าเกษตรกรรม
ส่วนปัญหาประเด็นสินค้าจีนราคาถูกทุ่มตลาดไทย หากเป็นสินค้าที่ต้องมีมาตรฐานบังคับใช้ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องต้องมีความเข้มงวด เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เป็นต้น
ด้าน ส.อ.ท. โดยนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน ก็มี 5 ข้อเสนอเร่งด่วน และ 3 ข้อเสนอระยะกลาง-ยาว การปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศจากสินค้านำเข้าที่ไม่มีคุณภาพ และการทุ่มตลาด และการส่งเสริมสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย และสินค้าที่ได้รับการรับรอง Made in Thailand : MIT เป็นต้น
แต่ที่แน่นอนก็คือการอวยนายกรัฐมนตรีคนใหม่ว่าเป็นคนรับฟังปัญหา และพร้อมที่จะช่วยแก้ไขปัญหา เรียกว่าอยู่เป็นกันทุกคนเลยนะขอรับเจ้านาย
เรื่องที่ 4,895 จะไม่เขียนเรื่องนี้คงจะยาก เพราะเวลานี้ชาวบ้านเดือดร้อนกันไปหลายต่อหลายครัวเรือน กับน้ำท่วมทางภาคเหนือและอีสาน ที่เวลานี้น้ำขึ้นสูงแทบจะมิดหลังคาบ้านกันแล้วในบางแห่ง ภาครัฐและภาคเอกชน ต่างระดมกำลังเข้าช่วยเหลือ ทั้งมอบถุงยังชีพ และเข้าช่วยเหลือ อพยพผู้ประสบอุทกกระภัยมายังศูนย์พักพิง วินาทีนี้คนไทยต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ยามยาก เราต้องผ่านวิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้กันไปให้ได้ นอกจากนี้ รัฐบาล ยังย้ำ เตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง คอยติดตามสถานการณ์น้ำกันอย่างใกล้ชิดด้วยนะขอรับ เพื่อความปลอดภัยทั้งตนเอง และทรัพย์สิน
สรุปข่าวเด่นต่างประเทศ
เรื่องที่ 4,896 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของสิงคโปร์ชะลอตัวลงมากเกินคาดในเดือนก.ค. ทำให้ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) มีโอกาสที่จะพิจารณาผ่อนคลายนโยบายการเงินในปีนี้ สำนักงานสถิติของสิงคโปร์เปิดเผยในวันนี้ (23 ส.ค.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมราคาค่าขนส่งและที่พักอาศัย เพิ่มขึ้น 2.5% จากปีก่อน ซึ่งชะลอลงจากค่าเฉลี่ยที่ 2.9% ในผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก และนับเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันที่อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง หลังจากเพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนมิ.ย.
เมื่อเทียบเป็นรายปี ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ชะลอตัวเกินคาดแตะ 2.4% ในเดือนก.ค. ซึ่งเท่ากับในเดือนมิ.ย. และเมื่อเทียบเป็นรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไปลดลง 0.3% ในเดือนก.ค. หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนมิ.ย. ขณะที่ MAS คาดว่า แนวโน้มเงินเฟ้อที่ชะลอตัวจะดำเนินต่อไปนั้น การชะลอตัวเกินคาดจะเปิดโอกาสให้ผู้กำหนดนโยบายพิจารณาผ่อนคลายนโยบายการเงินในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนต.ค.
เรื่องที่ 4,897 กระทรวงมหาดไทยของญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (23 ส.ค.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (core CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ไม่นับรวมราคาอาหารสด ปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือนก.ค. 2567 เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 2.6% ในเดือนมิ.ย. สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ดัชนี core CPI ที่ปรับตัวสูงขึ้นได้รับแรงหนุนจากค่าไฟที่พุ่งขึ้นถึง 22% หลังจากรัฐบาลระงับมาตรการอุดหนุนค่าสาธารณูปโภค ซึ่งชดเชยกับราคาอาหารแปรรูปและค่าที่พักที่ชะลอตัวลง
“ขณะนี้เราคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค. ถึงแม้ว่าแรงกดดันเงินเฟ้อจะไม่ได้รุนแรงมาก แต่เราเชื่อว่า BOJ (ธนาคารกลางญี่ปุ่น) จะยังคงเดินหน้าปรับนโยบายการเงินสู่ภาวะปกติต่อไป” นายทาคาฟูมิ ฟูจิตะ นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยเมจิ ยาสุดะ ให้ความเห็น
เรื่องที่ 4,898 China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนในวันนี้อ่อนค่าลง 0.0130 หยวน แตะที่ 7.1358 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน
ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดอินเตอร์แบงก์จะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน
เรื่องที่ 4,899 ไฟแนนเชียล ไทม์ส (FT) รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (22 ส.ค.) ว่า แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่จากอังกฤษประกาศเตือนว่า บริษัทอาจจะย้ายสถานที่ผลิตวัคซีนจากอังกฤษไปยังสหรัฐ ท่ามกลางความขัดแย้งกับพรรคแรงงานที่เป็นรัฐบาลใหม่เกี่ยวกับแผนการลดเงินสนับสนุนจากรัฐบาล
รายงานระบุว่า ราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอังกฤษ มีแผนจะลดเงินสนับสนุนของรัฐบาลให้กับศูนย์วัคซีน โดยจะลดเงินสนับสนุนที่รัฐบาลชุดก่อนเคยสัญญาไว้ที่ 90 ล้านปอนด์ ลงเหลือ 40 ล้านปอนด์ ข้อเสนอของรัฐบาลก่อนหน้านี้ยังรวมถึงเงินช่วยเหลือมากถึง 70 ล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาโรงงานที่เขตสปีคของเมืองลิเวอร์พูล และเงินสนับสนุนการวิจัยและการพัฒนาอีก 20 ล้านปอนด์จากสำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักร (UKHSA) อย่างไรก็ตาม แอสตร้าเซนเนก้าและกระทรวงการคลังของอังกฤษยังไม่ได้ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
โดยนพวัชร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ออกสลาก N3 งวดแรก 2 ต.ค.67 ในแซนด์บ็อกซ์